(เจียอี้)
งานกีฬาของโรงเรียนสถาบันทั่วประเทศได้จัดขึ้นที่หาวิทยาลัยจงเจิ้นอย่างเป็นทางการ
เมื่อบ่ายวันที่ 29 เมษายน 2545 เพื่อเป็นการชิงแชมป์จากนักกีฬาเกือบ
12,000 คนที่มาจากโรงเรียนสถาบัน 165 แห่งทั่วประเทศเป็นเวลา 6 วัน
ระหว่างนั้นเป็นเทศกาล “วัฒนธรรมสับปะรด” ประจำปีของเขตหมินเสียน
อำเภอเจียอี้ ดังนั้นผู้จัดงานจึงได้จัดงานออกร้านสินค้าผลิตภัณฑ์เกษตรขึ้น
และมีการแสดงการเต้นรำกับการแสดงงิ้วอันเป็นศิลปะวัฒนธรรมขึ้น
ทำให้งานกีฬาในครั้งนี้ได้ร่วมกับงานวัฒนธรรมด้วยกลายเป็นงานพิเศษอีกงานหนึ่ง
สมาคมนานาชาติอนุตราจารย์ชิงไห่ก็มาร่วมความสนุกในงานนี้ด้วย
โดยจัดงานออกร้านเพื่อเผยแพร่คำสอนของท่านอาจารย์ในงานนี้ด้วย
สมาคมนานาชาติจัดงานเป็น 2
ร้าน โดยแยกเป็นร้านเผยแพร่คำสอนท่านอาจารย์กับร้านเผยแพร่อาหารมังสวิรัติ
เพื่อนบำเพ็ญชาวเจียอี้ต่างร่วมแรงร่วมใจกันเตรียมทำอาหารมังสวิรัติอันโอชา
อาหารมังสวิรัติเป็นการชดเชยอาหารเครื่องดื่มซึ่งอยู่ห่างสนามกิฬามาก
ผู้คนมากมายมาซื้ออาหารมังสวิรัติ
และได้สอบถามธรรมวิถีกวนอิมของท่านอาจารย์
เพื่อนบำเพ็ญต่างดีใจที่มีโอกาสอธิบายให้พวกเขาหายข้องใจ
มีพ่อค้าในงานคนหนึ่งรับประทานมังสวิรัติมาเป็นเวลา 10 กว่าปี
ถือโอกาสที่อยู่ในงานด้วยกัน
มาอุดหนุนอาหารมังสวิรัติที่ร้านเพื่อนบำเพ็ญตลอดทั้ง 5 วัน
รับประทานอาหารไปก็ชมดีวีดีการแสดงธรรมของท่านอาจารย์ไปด้วย
เขาชมอาหารมังสวิรัติอร่อยแล้ว ยังร้องบอกว่า “ผลที่ได้รับจากการดูมากกว่าผลที่ได้รับจากการรับประทานอาหาร!”
ระหว่างงาน
ร้านของสมาคมนานาชาติได้ดึงดูดผู้คนที่มีบุญสัมพันธ์มากมาย
ที่ให้ความสนใจกึงคำสอนของท่านอาจารย์
มีนักศึกษาวิชาต่างประเทศคนหนึ่งกล่าวอย่างตื้นตันใจว่า
เมื่อก่อนเคยคิดจะประทับจิตครั้งหนึ่ง
แต่เนื่องจากคนในครอบครัวมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับองค์กรของเรา
จึงได้ขัดขวางไว้ ในงานนี้ เขาได้เรียนวิถีสะดวกสมความปรารถนา
หลังจากนั่งสมาธิแล้ว ดูเขาจิตใจสดชื่น กลายเป็นคนละคนไป
มีบุคคลที่มีชื่อเสียงในพื้นที่มาชมดีวีดี การแสดงธรรมของท่านอาจารย์บ่อยๆ
และจะดูเป็นเวลาหลายชั่วโมง แม้แต่ถึงเวลาอาหาร ก็ยังไม่อยากจากไป
เมื่องานผ่านไปวันที่ 4 เขาได้สมัครเรียนวิถีสะดวก และกล่าวว่า
เมื่อเคยชินกับอาหารมังสวิรัติแล้ว จะเตรียมการขอประทับจิตต่อไป
มีนักกีฬาที่มาแข่งขันมากมายมาชมร้านของสมาคมนานาชาติ
บางคนเป็นเพื่อนบำเพ็ญด้วยกัน
เนื่องจากผู้เข้าแข่งขันเป็นการคัดเลือกกระทันหัน
เมื่อเห็นคนทานมังสวิรัติสามารถเข้าแข่งขันกับนักกิฬาที่คัดเลือกมาในครั้งนี้
ต่างก็กล่าวว่าการรับประทานอาหารมังสวิรัติที่ถูกต้องไม่ได้ทำให้ขาดสารอาหารแต่อย่างใด
ตรงข้ามสามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เช่น ตัวแทนการแข่งขันว่ายน้ำ
ศิษย์ผู้พี่ชาย หลิว จากศูนย์กลางมหาวิทยาลัย
กล่าวว่าเขารู้สึกว่าอาหารมังสวิรัติให้เขาไม่ต้องกังวล
ความอดทนกับความแข็งแรงของร่างกายดียิ่งขึ้น
ครูใหญ่ในโรงเรียนจึงได้เสนอให้เขามาพัฒนาด้านการว่ายน้ำระยะยาว
คุณหม่าอิงจิ่ว
นายกเทศมนตรีเมืองไทเป ซึ่งเป็นโฆษกในงานกิฬาครั้งนี้ กล่าวสนับสนุนนักกีฬา
ต้องมีการเตรียมพร้อมก่อน อย่าได้กลัวแพ้ตั้งแต่แรก
ต้องรู้จักจุดเด่นกับจุดประสงค์ของตัวเอง
โดยเฉพาะการวิ่งระยะยาวกับการว่ายน้ำระยะยาว
ต้องใช้ความอดทนและพลังของร่างกาย
ถ้าแพ้ครั้งแรกไม่ได้หมายความว่าผลสุดท้ายจะแพ้ด้วย
เมื่อหันมามองการบำเพ็ญของพวกเราก็เหมือนกัน
ขอเพียงจุดมุ่งหมายในการบำเพ็ญถูกต้อง รักษาเวลา
ขยันหมั่นเพียรบำเพ็ญขอให้ยึดมั่นในการปฏิบัติ “จงท้าทายต่อสู้กับตนเอง
ด้วยความขยันหมั่นเพียรโดยไม่ย่อท้อ”
ไม่ว่าจะอยู่กับการกีฬาหรือการบำเพ็ญแล้วจะได้ผลอันสมบูรณ์เต็มเปี่ยม