เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์ประจำปีของวันชิงไห่อันรุ่งโรจน์
ฉันอยากแบ่งปันประสบการณ์อันมีค่า ซึ่งฉันได้รับในวันที่
25
ตุลาคม
2545
ในปีนั้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงวันหยุดเทศกาลที่พิเศษนี้
ผู้ประทับจิตชาวฟิลิปปินส์ได้มาชุมนุมกันเหมือนเช่นเคย เพื่อร่วมสมาธิกลุ่ม
หลังจากนั่งสมาธิ ฉันก็ลังเลที่จะออกจากห้องนั่งสมาธิ แต่ได้นั่งบนเก้าอี้
และจ้องมองภาพถ่ายของท่านอาจารย์ ซึ่งแขวนอยู่บนกำแพง เพราะมันคล้ายกับว่า
ท่านอาจารย์กำลังยิ้มกับฉัน ฉันมองดูท่านด้วยความหลงใหล และในทันใดนั้นเอง
ฉันก็รู้สึกถึงพลังแห่งแม่น้ำสีฟ้าที่ใส ไหลเข้ามาในตาของฉัน
ฉันจึงหันไปมองภาพวาดความใฝ่กระหายซึ่งแขวนอยู่ใกล้ภาพถ่ายนั้น
และได้เห็นว่า แม่น้ำที่อยู่ในภาพนั้น กำลังไหล! ฉันตกใจ
เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งงานศิลปะของท่านอาจารย์ และไม่ใช่แม่น้ำจริง
แต่น้ำนั้นก็ดูเหมือนกับกำลังไหล
นับตั้งช่วงต้น ของชีวิตในวัยเด็ก ฉันชื่นชมในงานศิลปะ
บทกวีและธรรมชาติอยู่เสมอ ฉันจึงรักบทกวีและภาพวาดของท่านอาจารย์ทั้งหมด
เพราะสำหรับฉัน แต่ละชิ้นต่างก็มีความหมายที่แตกต่างและลึกซึ้งออกไป
ฉันมักเพ่งพิจารณางานศิลปะของท่านอาจารย์ และในเวลาเช่นนั้น
ก็ได้มีประสบการณ์ถึงความรู้สึกที่แรงกล้า ยอดเยี่ยม อ่อนโยน และสบาย
จนฉันอยากจะสัมผัสมัน และเอามันมาดูใกล้
ความรักและพระพรของท่านอาจารย์ มีอยู่อย่างทรงพลังในทุกสิ่ง
ที่ท่านเป็นเจ้าของและเมื่อเรารวบรวมสมาธิ เราจะเห็นว่า
วัตถุทั้งหลายเหล่านี้เต็มไปด้วยชีวิตและพลังงาน
ขอบคุณท่านอาจารย์
ที่ให้พรฉันด้วยชีวิตที่ไร้กังวลและให้ธรรมวิถีกวนอิมแก่ฉัน
เทคนิคที่สูงสุดซึ่งมีพลังอันสุดประมาณ ซึ่งฉันทราบว่า
ฉันจะได้มาถ้าฉันขยันบำเพ็ญ