เราต่างมาอยู่ที่นี่ ทำงานเป็นมนุษย์อย่างต้อยต่ำ
และเราทำงานเป็นมนุษย์ได้เป็นอย่างดีจนกระทั่งเราลืมไปว่าเราไม่ใช่มนุษย์
เราเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากๆ เราควบคุมจักรวาลทั้งหมด เราสามารถทำอะไรก็ได้ที่เราต้องการ ในเวลาใดก็ตามที่เราต้องการในแต่ละวัน ไม่ว่าเราจะเป็นใคร
ผิวสีอะไร มีงานทำชนิดไหน อายุเท่าไร และเราอยู่ที่ไหน ไม่ว่าเราจะอยู่ในคุก
ในประเทศที่มีกฎระเบียบเคร่งครัด หรือในประเทศอิสระเสรีอย่างในอเมริกา
เรายังคงสามารถทำอะไรก็ได้เมื่อไรก็ได้ และเอฟบีไอไม่สามารถตรวจได้ด้วย
เพราะว่าเราทำมันด้วยจิตวิญญาณ
เราไม่จำเป็นแม้กระทั่งต้องจากร่างกายนี้เพื่อที่จะทำสิ่งนั้น
หากว่าเรามีความสามารถในการปฏิบัติเพียงพอ เราสามารถทำหน้าที่ต่างๆ
ในเวลาเดียวกันในโลกนี้ เช่น ขับรถ ไปซื้อของ แต่งหน้า ล้างจาน ให้อาหารสุนัข
แมว ขับเรือ และขณะเดียวกันเราก็ยังคงสามารถทำงานอื่นๆ ได้อีกมากมายถึง 1,000
ล้านงานที่ต้องการตามกำลังของเรา
ดังนั้น หากเรารู้จักเพื่อนหลายคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากเราในช่วงเวลาที่มีความทุกข์
ต้องการให้คนช่วยเหลือ เราสามารถบินไปที่นั่นเพื่อช่วยเขาทางจิต
และพวกเขาสามารถเห็นเราด้วย และในเวลาเดียวกัน เราก็ยังคงอยู่ในแคลิฟอร์เนีย
มีความสุขอยู่ในเรือ ในซานตา โมนิก้า หรืออะไรทำนองนั้น นั่นคือพลังอำนาจที่เรามีอยู่เสมอ เราทำได้เสมอและสามารถทำได้ตลอดไปในอนาคต
ไม่มีใครสามารถนำสิ่งนี้ไปจากเรา แต่เราต้องรู้วิธีได้มันมา
เราต้องค้นพบมันอีกครั้ง
เราต้องรู้ว่าทำอย่างไร
เราต้องไม่ให้ตารางเวลาที่ยุ่งเหยิงของการมีตัวตนในโลกนี้เพียงชั่วสั้นๆ
ทำให้เราตาบอด ทำให้เราหูหนวก หรือทำให้ใจเราไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่รู้
ด้วยดวงตาที่แท้จริง หูที่แท้จริง และความรู้ที่แท้จริง ทุกๆ
วันเราต้องสงวนช่วงเวลานิดหน่อยจากเวลาทั้งหมด 24 ชั่วโมง
มากเท่าที่เราสามารถเก็บเวลาไว้ได้
เราต้องสงวนเวลาเล็กน้อยเหล่านี้ไว้สำหรับตัวของเราเอง
เพื่อที่เราจะได้จำความยิ่งใหญ่ของเราได้ เพื่อที่เราจะได้ประสบในสิ่งที่พระคัมภีร์ไบเบิลได้สนเราไว้ เช่น
อาณาจักรของพระเจ้าอยู่ภายในเธอ
เราทั้งหมดคือลูกของพระเจ้า และคัมภีร์ทางพุทธศาสนาได้สอนเราไว้ด้วยว่า: ธรรมชาติของพุทธะอยู่ภายในเรา ทุกๆ สิ่งคือพุทธะ หากเรายุ่งเกินไป
เราจะไม่สามารถจำสิ่งนี้ได้ เราเพียงแค่ได้ยินคำพูดเหล่านี้
แต่เราไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของมัน
สำหรับบุคคลผู้เพียงได้ยินเรื่องเกี่ยวกับซาคราเมนโต หรือเฟรสโน
กับบุคคลอื่นซึ่งได้มาถึงที่นี่ เยี่ยมชมเมืองนี้
เขาจะรับรู้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นเราส่วนใหญ่ได้ยินว่า
เราคือลูกของพระเจ้าและพูดว่า อ้า ฉันรู้สิ่งนั้น อ้า ฉันคือพุทธะ
ฉันรู้ว่าอย่างนั้น แต่เราไม่รู้จริง ๆ และนั่นคือว่า ทำไมทุกๆ
วันเราจึงทุกข์ยากมากมาย เพราะว่าส่วนหนึ่งภายในเราร้องเรียก
ปลดปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ ปลดปล่อยให้ฉันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่
ให้ฉันเป็นสิ่งที่ฉันเป็นจริงๆ นั่นคือพุทธะภายในเรา
นั่นคือพระเจ้าภายในเรา นั่นคือมหาอาจารย์
เมื่อเราได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของเราแล้วจะไม่มีปัญหาอะไรยิ่งใหญ่เกินแก้
จะไม่มีความตายใดๆ ที่สามารถทำให้เรากลัวได้ ไม่มีอันตรายใดๆ
สามารถทำให้เราหวาดหวั่น เรารู้สึกดีเสมอ รู้สึกมั่นคง รู้สึกเหมือนพระเจ้า
รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ รู้สึกมีความสุขตลอด
พร้อมเสมอที่จะช่วยใครก็ตามที่ต้องการความช่วยเหลือทางด้านกายและจิตวิญญาณ
การช่วยเหลือทางด้านจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
เพราะว่าเมื่อใดที่เธอได้ช่วยใครก็ตามทางด้านจิตวิญญาณ
เขาสามารถช่วยเหลือตัวของเขาเอง และอีกด้าน
เขาก็สามารถดูแลความต้องการทางกายได้ด้วย ในตอนต้น บางทีท่านอาจารย์-อนุตราจารย์ชิงไห่ช่วยเรา
ในเวลาที่เราต้องการทางกายและจิตวิญญาณ แต่ภายหลังเธอได้ช่วยตัวของเธอเอง
และหลังจากนั้นเธอก็ช่วยทุกๆ คนด้วย บิดามารดาของเธอผู้ซึ่งแม้ว่าตายไปแล้ว
ปู่ย่าตายายของเธอและบรรพบุรุษชั้นต้นๆ ของเธอ สมาชิกในครอบครัวอนาคตของเธอ
พวกเขาทั้งหมดได้รับการดูแลโดยเธอ
วันที่เธอได้รับการประทับจิต
เป็นวันที่พวกเขาได้รับการหลุดพ้น หากพวกเขาอยู่ในโลกอื่นอยู่แล้ว
พวกเขาจะได้รับการยกระดับไปสู่ความอิสระและความรอบรู้ที่สูงขึ้น
ถ้าหากพวกเขาอยู่บนดาวดวงนี้ เขาจะได้รับการช่วยเหลือทางกายทุกๆ ด้าน
ซึ่งเป็นไปได้สำหรับดาวดวงนี้ และตัวพวกเธอเองก็จะได้เข้าสู่ความเป็นนักบุญ
เป็นคนที่แท้จริงที่มีความสามารถ ที่พวกเราเป็นอยู่จริงๆ
เพราะว่าเราแท้จริงแล้วไม่ใช่ร่างกายนี้ ท่านมิทราบดอกหรือว่า
ท่านเป็นจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ท่านมิทราบดอกหรือว่า
ท่านเป็นเพียงวิหารของพระเจ้า ร่างกายนี้เป็นเพียงวิหารของพระเจ้าเท่านั้น
และจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็อาศัยอยู่ในตัวท่าน?
เราทั้งหมดได้อ่านสิ่งนี้ในพระคัมภีร์ไบเบิล
เราทั้งหมดได้อ่านสิ่งเหล่านี้ในบทสวด
แต่เราไม่มีประสบการณ์ในด้านความเป็นจริงว่า นั่นหมายถึงอะไร
ที่ว่าวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้อาศัยอยู่ภายในตัวเรา
และใครกันคือจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์นั้น? มันคือตัวเราที่แท้จริงนั่นเอง
มันเป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้า ส่วนหนึ่งของจักรวาลทั้งจักรวาล
และเมื่อเราได้รู้จิตนี้แล้ว จิตวิญญาณของเราก็จะเป็นอิสระ อิสระตลอดไป
ทูตแห่งความตายไม่สามารถจะเรียกร้องเอาจิตวิญญาณของเราได้อีกต่อไป
เมื่อใดที่เราปิดตาของเราลงเราได้จบงานของเราในการปรากฏตัวบนโลกนี้
เราเป็นอิสระที่จะบินไปที่ไหนก็ได้ ไปยังบ้าน ที่เราเลือก
ที่อยู่ในจักรวาลอันยิ่งใหญ่ทั้งหมด เราเลือกที่ ที่เราจะอยู่
สวรรค์ที่ไหนก็ได้ที่อยู่ใกล้บ้านของเรา ที่อยู่ใกล้เพื่อนของเรา
ญาติของเราในชาตินี้ หรือในชาติหน้า หรือชาติที่แล้ว
เราสามารถที่จะเลือกอยู่กับพวกเขา เราสามารถที่จะเลือกไม่อยู่กับพวกเขา
แต่ว่าจะไปเพื่อเยี่ยมเยียนเขาเมื่อไรก็ได้ แค่เพียงคิดถึงเขา
พวกเธอก็จะสามารถไปที่นั่นได้ทันที ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเครื่องบิน
เหมือนอย่างที่ฉันต้องจ่ายเพื่อที่จะมาที่นี่ (หัวเราะ) |