เข้าสู่ ‘โรงแรม’ แห่งนิรันดร์ของสวรรค์
 

ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ศูนย์ประชุมแห่งเฟรสโน แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

วันที่ 23 มิถุนายน 2544 (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)
สตรีนักแก้ปัญหาในบริษัทผู้อาสาสมัคร
 
 

วันนี้เรามาที่นี่เพื่อที่จะแนะนำให้ท่านได้รู้จักท่านอาจารย์ชิงไห่ (ท่านอาจารย์และผู้ฟังก็หัวเราะขึ้น) เป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับฉันด้วย เพราะท่านอาจารย์นี้ยิ่งใหญ่ เมื่อไรก็ตามที่ท่านอยู่ในอุปสรรค ท่านเพียงแต่บอกกับท่านอาจารย์เพื่อให้แก้ไข ท่านอาจารย์ก็จะทำ ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคชนิดไหน ท่านอาจารย์เป็นนักแก้ปัญหา ชิงไห่หมายถึงมหาสมุทรแห่งความรัก ท่านอาจารย์คือพระเจ้า และฉันก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากด้วยที่ได้ทำงานเพื่อท่าน ฉันเป็นคนหนึ่งในจำนวนผู้จัดการหลายๆ คนที่อยู่ในบริษัท และเราก็มีพนักงานเป็นจำนวนมากผู้ยินดีเสมอที่จะทำงานโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เมื่อไรก็ตามและเมื่อมีการร้องขอหรือไม่ มันเป็นบริษัทที่ตลกมาก พนักงานต่างๆ ขอที่จะทำงานโดยไม่คิดค่าจ้าง และฉันก็เป็นที่รู้จักที่นี่ และบางทีพวกคุณก็เหมือนกัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน หัวหน้าก็มักจะพูดเสมอๆ ว่า “ไม่ๆๆ หรือบางที บางทีนะ” ซึ่งหัวหน้าตัวจริงก็มักจะพูดเสมอว่า “ใช่” ก่อนที่เราจะเริ่มทำอะไรด้วยซ้ำ แต่ผู้จัดการก็มักจะขี้เกียจ อย่างที่ท่านทราบ เนื่องจากได้โดนว่าจ้างมาเป็นเวลานาน และก็รู้สึกมั่นคงเกินไป และรู้สึกว่าเงินเดือนเยอะไป ทุกอย่างดีหมด ทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นก็ดี ทำงานเป็นเวลานาน แล้วก็ตำแหน่งนี้ก็ดีมากด้วยตอนนี้ ดังนั้นตอนนี้ผู้จัดการก็รู้สึกขี้เกียจ เหมือนๆ กับผู้จัดการอื่นๆ ทั่วไป โอ้ แต่อย่าได้บอกผู้จัดการของศูนย์ประชุมนี้ เพราะว่าเขานั้นแตกต่างไป

อาละ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เรากลับมาสู่เรื่องของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่กันดีกว่า She (ท่านผู้เป็นหญิง) เป็นอาจารย์ที่ดี บางครั้ง She ก็เป็น He (ท่านผู้เป็นชาย)” บุคคลนี้นั้นเปลี่ยนแปลงจาก “She” สู่ “He” อยู่ตลอดเวลา บางครั้งท่านดูเหมือนหญิงชรา ชายชราที่เครายาว อะไรอย่างนั้น และบางครั้งท่านก็ดูเหมือนสตรีวัยเยาว์ เป็นเจ้าหญิงที่สวยงาม กษัตริย์ที่งดงาม ราชินีที่สวยงาม เด็กที่สวยงาม… ท่านจะปรากฏตนมากหมายหลายแบบ เมื่อ She หรือ He จำเป็นจะต้องช่วยเหลือใครบางคนที่กำลังประสบปัญหา สาเหตุที่พวกเขาประสบปัญหา ก็เนื่องจากพวกเขาไม่ทราบว่า พวกเขาจะติดต่อโดยตรงกับอนุตราจารย์เองนั้นได้อย่างไร ข้าพเจ้ามาอยู่ที่นี่เพื่อเล่าให้ท่านฟังว่า ท่านจะติดต่อโดยตรงกับท่านอาจารย์ทุกๆ วันได้อย่างไร โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้บริษัทโทรศัพท์เอที & ที หรือไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ต

ท่านอาจารย์ถูกเบี่ยงเบนความสนใจโดยพี่ชายผู้หนึ่งซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมผู้เริ่มจะลงไปจากเวที และท่านก็หันไปหาเขา เชื้อเชิญให้เขาอยู่บนเวทีต่อไปและกล่าวว่า

ฉันรู้สึกดีใจที่มีใครบางคนอยู่เป็นเพื่อนฉัน ฉันรู้สึกเหงามาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว เมื่ออยู่ในห้องโรงแรม ฉันเกลียดห้องโรงแรม ฉันเหงามาก มีทางเดินยาวๆ ไม่มีใครให้คุย เมื่อใดก็ตามที่เธอเดินออกไป ก็จะมีแต่ประตูกับประตู และห้องกับห้อง สาเหตุหนึ่งที่ฉันไม่ชอบเดินทางมากเกินไปนัก ก็เป็นเพราะฉันเกลียดห้องโรงแรม ฉันรู้สึกหงอยเหงามากเหลือเกินที่นั่น วิญญาณมิได้หงอยเหงา เป็นเพียงจิตใจที่เหงาและก็สับสน บางครั้งมันก็มีกลิ่นเหม็น ถ้าเธอบังเอิญได้อยู่ในห้องที่ห้ามสูบบุหรี่ มันก็จะดีกว่า มิฉะนั้นแล้วมันไม่ดีเลย

ดังนั้นสิ่งที่ดีก็คือ ฉันสามารถนั่งสมาธิ ฉันก็จะได้แต่นั่งสมาธิอยู่ตรงนั้น แล้วก็ “แวบ” แล้วก็ไปที่ไหน ที่อื่นสักแห่ง ออกจากห้องโรงแรมไปตามลำพัง แต่กระนั้นเราก็ยังต้องเสียเงินค่าห้องอยู่ดี (ท่านอาจารย์หัวเราะ) มันมิใช่ว่า เธอไปที่ไหนสักแห่งแล้วก็ไม่ต้องจ่ายค่าห้องแล้ว (ทุกๆ คนหัวเราะ) ดังนั้นหากเราได้ทำสมาธิ เราสามารถอยู่ได้อย่างน้อย 2 สถานที่ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่ 1 คือบนโลก และอีกที่หนึ่งคือบนสวรรค์ เราสามารถทำทั้ง 2 อย่างในเวลาเดียวกัน และหลังจากที่เธอได้พัฒนามากขึ้นในด้านการปฏิบัติ เธอสามารถอยู่ในหลายๆ ที่ในโลกแห่งนี้และหลายๆ ดวงดาวในจักรวาลแห่งนี้ ในขณะเวลาเดียวกัน แต่ในขณะที่ยังอยู่ในโลกแห่งนี้ มันจะเสียแค่ค่าห้องห้องหนึ่งเท่านั้น หากเธออยู่ ณ ห้องห้องหนึ่ง เธอสามารถทิ้งร่างกายเธอที่นั่น และยังคงจ่ายสำหรับร่างกายนี้ ร่างกายนี้ทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายมากมายทุกๆ วัน ตั้งแต่เราเกิด จนกระทั่งฉันโตขนาดนี้ (ท่านอาจารย์ได้ทำมือของท่านประกอบ) ฉันหมายถึงว่า ฉันไม่ได้โตขนาดนั้น แต่อย่างไร จนกระทั่งฉันเติบโตขนาดนี้ ได้มีการนำเงิน ความพยายาม เวลา และพลังงานจำนวนมากมาใส่ในร่างกายนี้! โชคดีฉันได้รับการว่าจ้างจากบริษัทที่ดีบริษัทหนึ่ง ทำงานที่ดีงานหนึ่ง ฉันจึงไม่ทำให้อาหารเสียเปล่า

 
เราต่างคือลูกของพระเจ้า
 

เราต่างมาอยู่ที่นี่ ทำงานเป็นมนุษย์อย่างต้อยต่ำ และเราทำงานเป็นมนุษย์ได้เป็นอย่างดีจนกระทั่งเราลืมไปว่าเราไม่ใช่มนุษย์ เราเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากๆ เราควบคุมจักรวาลทั้งหมด เราสามารถทำอะไรก็ได้ที่เราต้องการ ในเวลาใดก็ตามที่เราต้องการในแต่ละวัน ไม่ว่าเราจะเป็นใคร ผิวสีอะไร มีงานทำชนิดไหน อายุเท่าไร และเราอยู่ที่ไหน ไม่ว่าเราจะอยู่ในคุก ในประเทศที่มีกฎระเบียบเคร่งครัด หรือในประเทศอิสระเสรีอย่างในอเมริกา เรายังคงสามารถทำอะไรก็ได้เมื่อไรก็ได้ และเอฟบีไอไม่สามารถตรวจได้ด้วย เพราะว่าเราทำมันด้วยจิตวิญญาณ เราไม่จำเป็นแม้กระทั่งต้องจากร่างกายนี้เพื่อที่จะทำสิ่งนั้น หากว่าเรามีความสามารถในการปฏิบัติเพียงพอ เราสามารถทำหน้าที่ต่างๆ ในเวลาเดียวกันในโลกนี้ เช่น ขับรถ ไปซื้อของ แต่งหน้า ล้างจาน ให้อาหารสุนัข แมว ขับเรือ และขณะเดียวกันเราก็ยังคงสามารถทำงานอื่นๆ ได้อีกมากมายถึง 1,000 ล้านงานที่ต้องการตามกำลังของเรา ดังนั้น หากเรารู้จักเพื่อนหลายคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากเราในช่วงเวลาที่มีความทุกข์ ต้องการให้คนช่วยเหลือ เราสามารถบินไปที่นั่นเพื่อช่วยเขาทางจิต และพวกเขาสามารถเห็นเราด้วย และในเวลาเดียวกัน เราก็ยังคงอยู่ในแคลิฟอร์เนีย มีความสุขอยู่ในเรือ ในซานตา โมนิก้า หรืออะไรทำนองนั้น นั่นคือพลังอำนาจที่เรามีอยู่เสมอ เราทำได้เสมอและสามารถทำได้ตลอดไปในอนาคต ไม่มีใครสามารถนำสิ่งนี้ไปจากเรา แต่เราต้องรู้วิธีได้มันมา เราต้องค้นพบมันอีกครั้ง

เราต้องรู้ว่าทำอย่างไร เราต้องไม่ให้ตารางเวลาที่ยุ่งเหยิงของการมีตัวตนในโลกนี้เพียงชั่วสั้นๆ ทำให้เราตาบอด ทำให้เราหูหนวก หรือทำให้ใจเราไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่รู้ ด้วยดวงตาที่แท้จริง หูที่แท้จริง และความรู้ที่แท้จริง ทุกๆ วันเราต้องสงวนช่วงเวลานิดหน่อยจากเวลาทั้งหมด 24 ชั่วโมง มากเท่าที่เราสามารถเก็บเวลาไว้ได้ เราต้องสงวนเวลาเล็กน้อยเหล่านี้ไว้สำหรับตัวของเราเอง เพื่อที่เราจะได้จำความยิ่งใหญ่ของเราได้ เพื่อที่เราจะได้ประสบในสิ่งที่พระคัมภีร์ไบเบิลได้สนเราไว้ เช่น “อาณาจักรของพระเจ้าอยู่ภายในเธอ” “เราทั้งหมดคือลูกของพระเจ้า” และคัมภีร์ทางพุทธศาสนาได้สอนเราไว้ด้วยว่า: “ธรรมชาติของพุทธะอยู่ภายในเรา ทุกๆ สิ่งคือพุทธะ” หากเรายุ่งเกินไป เราจะไม่สามารถจำสิ่งนี้ได้ เราเพียงแค่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ แต่เราไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของมัน สำหรับบุคคลผู้เพียงได้ยินเรื่องเกี่ยวกับซาคราเมนโต หรือเฟรสโน กับบุคคลอื่นซึ่งได้มาถึงที่นี่ เยี่ยมชมเมืองนี้ เขาจะรับรู้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นเราส่วนใหญ่ได้ยินว่า เราคือลูกของพระเจ้าและพูดว่า “อ้า ฉันรู้สิ่งนั้น อ้า ฉันคือพุทธะ ฉันรู้ว่าอย่างนั้น” แต่เราไม่รู้จริง ๆ และนั่นคือว่า ทำไมทุกๆ วันเราจึงทุกข์ยากมากมาย เพราะว่าส่วนหนึ่งภายในเราร้องเรียก “ปลดปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ ปลดปล่อยให้ฉันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ให้ฉันเป็นสิ่งที่ฉันเป็นจริงๆ ” นั่นคือพุทธะภายในเรา นั่นคือพระเจ้าภายในเรา นั่นคือมหาอาจารย์

เมื่อเราได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของเราแล้วจะไม่มีปัญหาอะไรยิ่งใหญ่เกินแก้ จะไม่มีความตายใดๆ ที่สามารถทำให้เรากลัวได้ ไม่มีอันตรายใดๆ สามารถทำให้เราหวาดหวั่น เรารู้สึกดีเสมอ รู้สึกมั่นคง รู้สึกเหมือนพระเจ้า รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ รู้สึกมีความสุขตลอด พร้อมเสมอที่จะช่วยใครก็ตามที่ต้องการความช่วยเหลือทางด้านกายและจิตวิญญาณ การช่วยเหลือทางด้านจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะว่าเมื่อใดที่เธอได้ช่วยใครก็ตามทางด้านจิตวิญญาณ เขาสามารถช่วยเหลือตัวของเขาเอง และอีกด้าน เขาก็สามารถดูแลความต้องการทางกายได้ด้วย ในตอนต้น บางทีท่านอาจารย์-อนุตราจารย์ชิงไห่ช่วยเรา ในเวลาที่เราต้องการทางกายและจิตวิญญาณ แต่ภายหลังเธอได้ช่วยตัวของเธอเอง และหลังจากนั้นเธอก็ช่วยทุกๆ คนด้วย บิดามารดาของเธอผู้ซึ่งแม้ว่าตายไปแล้ว ปู่ย่าตายายของเธอและบรรพบุรุษชั้นต้นๆ ของเธอ สมาชิกในครอบครัวอนาคตของเธอ พวกเขาทั้งหมดได้รับการดูแลโดยเธอ

วันที่เธอได้รับการประทับจิต เป็นวันที่พวกเขาได้รับการหลุดพ้น หากพวกเขาอยู่ในโลกอื่นอยู่แล้ว พวกเขาจะได้รับการยกระดับไปสู่ความอิสระและความรอบรู้ที่สูงขึ้น ถ้าหากพวกเขาอยู่บนดาวดวงนี้ เขาจะได้รับการช่วยเหลือทางกายทุกๆ ด้าน ซึ่งเป็นไปได้สำหรับดาวดวงนี้ และตัวพวกเธอเองก็จะได้เข้าสู่ความเป็นนักบุญ เป็นคนที่แท้จริงที่มีความสามารถ ที่พวกเราเป็นอยู่จริงๆ เพราะว่าเราแท้จริงแล้วไม่ใช่ร่างกายนี้ “ท่านมิทราบดอกหรือว่า ท่านเป็นจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ท่านมิทราบดอกหรือว่า ท่านเป็นเพียงวิหารของพระเจ้า ร่างกายนี้เป็นเพียงวิหารของพระเจ้าเท่านั้น และจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็อาศัยอยู่ในตัวท่าน?”

เราทั้งหมดได้อ่านสิ่งนี้ในพระคัมภีร์ไบเบิล เราทั้งหมดได้อ่านสิ่งเหล่านี้ในบทสวด แต่เราไม่มีประสบการณ์ในด้านความเป็นจริงว่า นั่นหมายถึงอะไร ที่ว่าวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้อาศัยอยู่ภายในตัวเรา และใครกันคือจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์นั้น? มันคือตัวเราที่แท้จริงนั่นเอง มันเป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้า ส่วนหนึ่งของจักรวาลทั้งจักรวาล และเมื่อเราได้รู้จิตนี้แล้ว จิตวิญญาณของเราก็จะเป็นอิสระ อิสระตลอดไป ทูตแห่งความตายไม่สามารถจะเรียกร้องเอาจิตวิญญาณของเราได้อีกต่อไป เมื่อใดที่เราปิดตาของเราลงเราได้จบงานของเราในการปรากฏตัวบนโลกนี้ เราเป็นอิสระที่จะบินไปที่ไหนก็ได้ ไปยังบ้าน ที่เราเลือก ที่อยู่ในจักรวาลอันยิ่งใหญ่ทั้งหมด เราเลือกที่ ที่เราจะอยู่ สวรรค์ที่ไหนก็ได้ที่อยู่ใกล้บ้านของเรา ที่อยู่ใกล้เพื่อนของเรา ญาติของเราในชาตินี้ หรือในชาติหน้า หรือชาติที่แล้ว เราสามารถที่จะเลือกอยู่กับพวกเขา เราสามารถที่จะเลือกไม่อยู่กับพวกเขา แต่ว่าจะไปเพื่อเยี่ยมเยียนเขาเมื่อไรก็ได้ แค่เพียงคิดถึงเขา พวกเธอก็จะสามารถไปที่นั่นได้ทันที ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเครื่องบิน เหมือนอย่างที่ฉันต้องจ่ายเพื่อที่จะมาที่นี่ (หัวเราะ)

 
ในโลกนี้ มันแตกต่างออกไป ในโลกของจิตวิญญาณ เราเป็นอิสระ เราเป็นอิสระ และเราก็ยิ่งใหญ่ด้วย! นั่นคือ ทำไมบางครั้งหลังจากการทำสมาธิ เรากลับมาสู่ห้องขังเล็กๆ ซึ่งเราเรียกว่า “ร่างกาย” และเราก็รู้สึกเศร้า บางครั้งเรารู้สึกเศร้ามาก แต่อย่างน้อยเราก็สามารถกลับไปยังอาณาจักรนั้นอีกครั้งเมื่อไรก็ได้ เมื่อเรามีเวลาว่าง มันดีกว่าที่ทุกๆ วันจะถูกจำกัดอยู่ในร่างกายเล็กๆ นี้ตลอดไป เหมือนอย่างว่า ถ้าเราอยู่ในห้องขัง แล้วผู้คนสามารถประกันตัวเราออกมาในบางครั้ง มันก็ยังดีกว่าที่จะนั่งอยู่ที่นั่นตลอดไป ดังนั้นนี่คือ “ประกัน” ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่าย และพวกเธอสามารถประกันตัวของเธอเองออกมาเวลาไหนก็ได้ และเนื่องจากฉันอยู่ที่นี่วันนี้ ท่านอาจารย์ได้กล่าวว่า พวกเธอสามารถที่จะประทับจิตได้ทันที แทนที่ต้องรออีกหลายเดือน ซึ่งเราไม่รู้ว่าเราจะอยู่จนกระทั่งถึงพรุ่งนี้หรือไม่
 
 
     
1 2 3 4