การรู้แจ้งมีความจำเป็นอยู่เสมอแม้ว่าเราอยากจะอยู่ในโลกนี้หรือแม้ว่าเราไม่ต้องการสวรรค์
ในประเทศจีนเราพูดว่า ประการแรกต้องรู้แจ้งก่อน
หมายความว่าให้ฝึกฝนตนเอง จากนั้นเราจึงสามารถดูแลครอบครัว
ต่อไปก็สามารถช่วยชาติได้ และต่อไปเราก็สามารถนำสันติสุขมาสู่โลก
ดังนั้นถ้าเราหมั่นพัฒนาฝึกฝนตนเอง
เราก็จะช่วยนำสันติสุขมาสู่โลกโดยปราศจากการเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น
ไม่ต้องมีการประชุมเกี่ยวกับสันติภาพอีกความสงบจะแผ่ปกคลุมไปทั่วโลกโดยอัตโนมัติและเป็นธรรมชาติ
ทำอย่างไรจึงจะฝึกฝนตนเองในชีวิตประจำวันได้ มันง่ายมากเราควรจดจำศีลให้ได้
พยายามรักษาศีลให้ดีที่สุด ถ้าศีลขาดลองพยายามใหม่อีกครั้ง
ใช่ละต้องหันหน้าพึ่งพระเจ้า พึ่งพระพุทธเจ้า
เพื่อขอความช่วยเหลือและการชี้นำ
พระพุทธเจ้าหมายถึงมหาอาจารย์ผู้รู้แจ้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต
ถ้าเราขอร้องพระองค์ด้วยความจริงใจเพื่อช่วยเหลือเราแล้วพระองค์ก็จะช่วยเหลือเรา |
|
ผู้คนเป็นจำนวนมากเข้าโบสถ์เข้าวัดเพื่อสวดอธิษฐาน
แต่บางครั้งมันก็ยากที่จะติดต่อกับพระพุทธเจ้าหรือพลังของพระเจ้า
ดังนั้นเราจึงรู้สึกว่าการสวดอธิษฐานนั้นไม่บรรลุผล
เพราะว่าการติดต่อได้ถูกตัดขาดออกไป เช่นเดียวกับโทรศัพท์ที่ถูกตัดสาย
แม้ว่าเราพยายามที่จะพูดแต่เป็นความพยายามที่ไร้ผล
เราก็ได้แต่ส่งเสียงดังและเพื่อนบ้านก็จะได้ยิน
แต่ไม่ใช่คนที่เราต้องการพูดด้วยซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป
ถึงแม้ว่าเพื่อนเราจะอยู่ไกลแสนไกลเราก็สามารถติดต่อเขาได้ทางโทรศัพท์
เหมือนกับที่ฉันกำลังพูดกับพวกเธออยู่ขณะนี้
เช่นเดียวกันถึงแม้ว่าพระเจ้าควรที่จะอยู่ไกลแสนไกลในสรวงสวรรค์
หรือมหาอาจารย์ผู้รู้แจ้งควรที่จะอยู่ในแดนพุทธเกษตรซึ่งอยู่สูงมากห่างไกลมากตัดขาดจากการติดต่อ
ถึงแม้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเราก็สามารถที่จะติดต่อกับท่านได้และขอรับความช่วยเหลือจากท่านได้
การติดต่อนั้นจะกระทำโดยผ่านสิ่งที่เรียกว่าการประทับจิต
หรือสิ่งที่เรียกว่าพิธีล้างบาปเหมือนที่จอห์น แบ๊บติสได้กระทำ
เหมือนกับพระเยซูได้กระทำ
ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นมากที่จะต้องมีมหาอาจารย์ที่มีกายเนื้อ
มิฉะนั้นแล้วพระเยซูและพระพุทธเจ้าคงไม่จำเป็นต้องมาที่นี่
และนักบุญท่านอื่นอีกหลายท่านคงไม่จำเป็นต้องมาที่นี่
พระองค์รับทราบถึงสิ่งที่เราเรียกร้อง
แต่เราก็ไม่สามารถได้รับคำตอบจากพระองค์
ดังนั้นพระองค์จึงต้องมาที่นี่เพื่อการติดต่อโดยตรงระหว่างสวรรค์กับโลก
จากนั้นพวกเราก็จะไม่ถูกแบ่งแยกออกจากจักรวาลอีกต่อไป |
|
|
แน่นอน เมื่อไรก็ตามที่มหาอาจารย์ลงมาสู่โลกนี้
มีผู้คนไม่มากนักที่จะมาหาท่าน
ไม่ใช่คนทั้งโลกแต่มีเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น
เหมือนกับที่เรามีโทรศัพท์สาธารณะเพียงบางเครื่องซึ่งดีกว่าไม่มีเอาเสียเลย
ดังนั้นเราจึงสามารถติดต่อกับผู้อื่นได้ด้วยโทรศัพท์สาธารณะนี้
ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีโทรศัพท์ส่วนตัวใช้ก็ตาม
ในทำนองเดียวกันใครก็ตามที่ติดตามนักบุญ
ลูกศิษย์ที่มีอันดับชั้นสูงกว่าจะกระทำตัวเหมือนโทรศัพท์สาธารณะที่คอยเชื่อมระหว่างสวรรค์กับโลก
บางทีอาจจะมีไม่มากนักแต่ก็ยังมีประโยชน์ แน่นอนถ้ามีมากขึ้นก็ยิ่งดี
เหมือนอย่างเช่น ถ้าเรามีโทรศัพท์ของเราเอง
เราก็จะสามารถติดต่อกับสวรรค์ได้โดยตรงตลอดเวลา
มหาอาจารย์เช่นพระเยซูหรือพระพุทธเจ้า ได้เสนอบริการแบบนี้มาให้
เพื่อที่จะสร้าง โทรศัพท์ แห่งสวรรค์ ต่อมาทุกครั้งที่เราสวดอธิษฐาน
คำอธิษฐานของเราก็จะได้รับการตอบสนอง เราจะทราบได้ด้วยตนเองหรืออย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
มันขึ้นอยู่กับอันดับชั้นของการปฏิบัติและความเข้าใจ
บางคนมีอันดับชั้นที่สูงกว่า บางคนก็ต่ำกว่า
มันขึ้นอยู่กับภูมิหลังและความเข้มแข็งในการปฏิบัติในชีวิตของเขา |
|
|
โรคบางชนิดไม่อาจจะรักษาได้ ถึงแม้จะเป็นโรคที่ธรรมดามาก
ฉันไม่ได้พูดถึงโรคชนิดใหม่ๆ ซึ่งยังไม่มียารักษาในขณะนี้
มันเป็นเพราะว่าเชื้อโรคเหล่านี้หยั่งรากลึกลงไปในอดีต
หมอและนักวิทยาศาสตร์จึงไม่สามารถผ่านพ้นสภาพปัจจุบันเข้าไปถึงความจริงในอดีตอันแสนไกลเพื่อที่จะค้นพบรากเหง้าของมัน
ถ้าคนเหล่านั้นเขารู้แจ้งด้วยตนเอง เขาก็จะรู้ถึงวิธีการรักษาตัวเขาเอง
เขารักษาด้วยภูมิปัญญาของเขาโดยเข้าใจถึงสาเหตุของมัน โอ้!
พวกเขาสามารถรู้ได้ด้วยตนเองหรือมันจะปรากฏแจ่มชัดขึ้น
มันยังขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของพวกเขาด้วย ถ้าเราปรับระดับชั้นให้สูงขึ้น
เราก็จะเห็นทุกสิ่งทุกอย่างแจ่มใสชัดเจนยิ่งขึ้น
ถ้าพวกเราเป็นกลุ่มที่เรียกว่าผู้เริ่มต้นอยู่
แน่นอนพวกเราก็จะไม่เห็นอะไรชัดเจนนัก
เป็นเพียงแต่รู้จากเสียงกระซิบภายในเท่านั้น
แต่การรู้ชีวิตที่แท้จริงของเราเพียงเล็กน้อย ก็จะช่วยเราได้อย่างมหาศาล |
|
ดังนั้น นักบุญทั้งหลายมักจะคอยช่วยเหลือผู้คน คอยตอกย้ำให้ผู้คนได้รู้แจ้ง
ได้ติดต่อกับอาณาจักรของพระเจ้า กับพลังของพระเจ้า
เราสามารถที่จะทำสิ่งเหล่านี้ได้ในช่วงยังมีชีวิตอยู่
เราไม่จำเป็นต้องคอยจนกระทั่งเราตาย
และไปรับประสบการณ์ของความเจ็บปวดของสิ่งที่เรียกว่าความตาย
ถ้าเรารอจนเราตายเพื่อที่จะได้เรียนรู้หรือติดต่อกับสวรรค์
เช่นนี้แล้วการเรียนรู้ของเราก็จะมีขีดจำกัดมาก
ลำดับชั้นของความเข้าใจของเราก็จะไม่สูงนัก
ถ้าเราเรียนรู้ที่จะตายในช่วงที่มีชีวิตอยู่
เราจะมีโอกาสมากขึ้นที่จะทำให้ก้าวหน้าถึงภูมิปัญญาที่สูงส่งกว่า
และเราสามารถทำเช่นนี้ได้เหมือนอย่างที่เราได้เรียนรู้งานอดิเรก
วิทยาศาสตร์แขนงใหม่ หรือวิชาการใหม่ๆ
เราเรียนรู้ไปพร้อมๆกับหน้าที่การงานอื่นๆ
เราสามารถจะดำเนินชีวิตและทำงานอย่างปกติ
แต่เราจะแบ่งเวลาทุกวันเพื่อที่จะเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่อยู่เหนือชีวิตนี้ |
|
เพื่อที่จะเรียนวิทยาศาสตร์แขนงนี้ เราไม่จำเป็นต้องมีชื่อสถานศึกษา
ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานทางการศึกษา หรือสถานภาพทางการเงินใดๆ
ไม่ต้องเสียเงินเพราะว่าภูมิปัญญานั้นมีอยู่ในตัวเราแล้ว
ดังนั้นมหาอาจารย์ที่แท้จริงจึงไม่เรียกร้องเงินทองจากลูกศิษย์
เพราะว่ามันเป็นสมบัติของเราเองที่เราได้ค้นพบอีกครั้ง
ถ้าฉันบอกเธอว่ามีขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ภายในบ้านของเธอ เออ!
แล้วฉันจะได้รับส่วนแบ่งบ้างไหม? ฉันไม่สามารถจะเรียกร้องมันได้
เพราะว่าขุมทรัพย์นั้นเป็นของเธอเอง
ฉันเพียงแต่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนและได้บอกพวกเธอเท่านั้น |
|