คำแนะนำของมารดา

ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ศูนย์ซีหู ฟอร์โมซา
27 ตุลาคม 2538 (เดิมเป็นภาษาอังกฤษ)
อาจารย์เล่าเรื่องนี้แก่คู่สามีภรรยาชาวอินเดียที่เพิ่งแต่งงานใหม่ ซึ่งมีปัญหาในชีวิตแต่งงานและได้ขอคำแนะนำจากอาจารย์ดังนี้

ลูกสาวคนหนึ่งที่หมั้นหมายกับสามีของเธอแล้ว ต้องเดินทางจากบ้านไปไกลเพื่อไปอยู่ที่บ้านของสามีเธอ ก่อนจะไป มารดาของเธอไม่ได้ร้องไห้เลย และไม่ยอมให้ลูกสาวร้องไห้ด้วย กลับบอกลูกว่า “ลูกต้องฟังแม่นะ วันนี้เป็นวันที่มีความสุขมาก พระเจ้าได้อวยพรลูกให้ลูกได้สามีที่ดีที่บำเพ็ญธรรมวิถีกวนอิมเสียด้วย (อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) ผู้ซึ่งไม่เล่นการพนัน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงอื่น ไม่ดื่มเหล้า ไม่หลอกลวงคดโกง แต่เป็นคนที่ซื่อสัตย์ ใจบุญ สุภาพอ่อนโยน มีศีลธรรม มีคุณธรรม และหล่อเหลา (ทุกคนหัวเราะ) ทั้งภายในและภายนอก” ภายในของเขาสวยงามกว่าภายนอก ภายในของเขาขาวสะอาด ถึงแม้ว่าภายนอกเขาจะตัวดำก็ตาม (อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) ลูกสาวยิ้มและฟังด้วยความสนใจ และด้วยความรักความเอาใจใส่ต่อคำพูดของมารดา

แล้วผู้เป็นมารดาก็พูดว่า “เอาละ ลูกจงไปยังบ้านใหม่ของลูกนะ และจงปฏิบัติต่อญาติฝ่ายสามีของลูกเหมือนกับญาติพี่น้องของลูกเอง เคารพนับถือพ่อแม่ของสามีเหมือนกับที่ลูกเคารพนับถือแม่กับพ่อของลูกนะ เคารพสามีของลูกเหมือนดังพระเจ้า, กูรู, เพื่อน, ผู้คุ้มครองป้องกันแต่เพียงผู้เดียวของลูก เหมือนดังบุคคลที่ลูกรักและนับถือมากที่สุดในโลกนี้ เพื่อว่าต่อไปลูกจะได้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับลูกๆของลูก และนำความรุ่งเรือง ความสุข และความภาคภูมิใจมาสู่ครอบครัวใหม่ของลูก ลูกเป็นหนี้บุญคุณนี้ต่อสามีของลูก ต่อแม่ และต่อพ่อและพี่น้องทุกคนในครอบครัวของเราที่จะทำหน้าที่นี้ให้สมบูรณ์ และลูกเป็นหนี้ต่อตัวเองเท่าๆ กับต่อสามีของลูกที่จะทำให้เราทุกคนปลื้มปิติด้วยวิธีนี้

"จงดูแลครอบครัวของลูกรวมทั้งทรัพย์สมบัติและธุรกิจของสามีให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป แล้วมันจะนำความสูงส่ง ความมั่นคง และความสมบูรณ์พูนสุขมาสู่ครอบครัวของลูก เพื่อลูกๆ ของลูกจะได้มีชีวิตอยู่อย่างสะดวกสบาย วันนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องเศร้าเสียใจไปหรอก มีแต่อนาคตที่น่าตื่นเต้นและเรื่องท้าทายเรื่องใหม่ที่กำลังรอคอยลูกอยู่ การที่ได้รับความรักจากสามีนั้นเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดในโลก ลูกควรจะอดทนเพียรพยายามที่จะเป็นภรรยาที่ดี เพื่อที่ลูกจะได้มีความสุขและความสำเร็จทั้งหมดนี้ในชีวิตของลูก”

ลูกสาวก็พูดว่า “แต่ว่า ลูกจะทำอะไรได้ที่จะเป็นการปฏิบัติภาระหน้าที่อันสวยงามและสูงส่งที่แม่เพิ่งจะบอกลูกนี้ให้สำเร็จสมบูรณ์ล่ะจ๊ะ?”

มารดาก็บอกว่า “ลูกต้องกินดี แต่งตัวดี และนอนหลับให้สบายทุกวัน” ลูกสาวก็พูดว่า “ค่ะแม่ ลูกเข้าใจแล้ว”  แล้วเธอก็เดินทางไปอยู่บ้านครอบครัวของสามี และทำตามนั้นทุกอย่างคือ นอนหลับสบาย กินดี แต่งตัวสวยๆทุกวัน บรรดาสมาชิกในครอบครัวสามีของเธอต่างก็มีความสุข ถูกใจรักใคร่เธอ เธอเลี้ยงดูลูกๆที่น่ารัก ว่านอนสอนง่าย เฉลียวฉลาด ขยันเรียน ขยันทำงาน ให้สามีและครอบครัวของสามี  คนอื่นๆต่างก็มาถามเคล็ดลับของเธอว่า “เธอทำได้อย่างไรน่ะ? เธอมาจากที่ห่างไกลขนาดนี้ เธอไม่เคยรู้ขนบธรรมเนียมของดินแดนแห่งนี้เลย แต่เธอก็ยังทำได้ดีมาก เธอทำอย่างไรน่ะ?

ลูกสะใภ้คนนี้ ซึ่งตอนนี้เป็นคุณแม่ของลูก 3 คนแล้ว เป็นแม่ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว (อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) เจ้านายหญิงแห่งบริษัทของสามีเธอ หัวหน้าเลขานุการ แม่บ้านของทั้งครอบครัว (อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) นางพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุและสำหรับพ่อแม่ผู้อ่อนแอบอบบางของสามี ผู้นำครอบครัวสำหรับน้องชายน้องสาวของสามี และอะไรอื่นๆ และเป็นผู้ช่วยซึ่งเป็นคุณแม่ผู้เปี่ยมด้วยความรักของลูกๆ ที่น่ารัก สุขภาพดี และฉลาดเฉลียวสามคน เธอพูดด้วยความถ่อมตัวมากว่า “ฉันทำทั้งหมดนี้ได้สำเร็จเพราะคำแนะนำด้วยความรักของแม่ของฉัน”

เพราะฉะนั้นทุกคนจึงพูดว่า “บอกฉัน บอกฉันหน่อย-ได้โปรดเถิด บอกฉันด้วย บอกฉันที”  “แม่ของฉันบอกฉันไว้ก่อนที่ฉันจะเป็นเจ้าสาวผู้เศร้าหมองที่มาอยู่ที่นี่ว่า ฉันควรจะไปอยู่กับครอบครัวของสามี แล้วก็นอนหลับให้สบาย กินดีๆ แต่งตัวให้สวยเก๋ทันสมัย” (อาจารย์และทุกคนหัวเราะ)  ทุกคนก็พูดว่า “อะไรนะ? เป็นคำแนะนำแบบไหนกันนี่? และเธอก็ทำตามแบบนั้นทุกอย่างเลยหรือในการดูแลครอบครัวของเธอน่ะ?”  เธอก็ตอบว่า “ใช่แล้ว ฉันทำแบบนั้นทุกอย่างคือ กินดี นอนหลับให้สบาย แล้วก็แต่งตัวสวยๆทันสมัยทุกวัน ฉันทำแบบนั้นแหละ”

พวกเขาจึงพูดว่า “ทำได้อย่างไรน่ะ? เธอหมายความว่าอย่างไร? เธอดูแลครอบครัวของเธอด้วยการทำเพียงแค่เพลิดเพลินมีความสุขแบบนี้ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ไปได้ด้วยดีหรือ? ช่วยอธิบายให้เราเข้าใจหน่อย เธอกำลังพูดล้อเล่นหรืออะไรกันแน่?”

เธอก็พูดว่า “เปล่านะ! เปล่า! สิ่งที่แม่ของฉันหมายความสำหรับการกินดีก็คือว่า ฉันต้องดูแลทั้งครอบครัวทั้งหมดให้พวกเขาได้กินดี รวมทั้งแขกเหรื่อทั้งหลาย จนกว่าพวกเขาจะอิ่มหนำสำราญกันหมดแล้ว ฉันถึงจะกินของที่เหลืออยู่ เพราะว่าหลังจากที่ทุกคนอิ่มสบายใจกันแล้ว ก็จะไม่มีใครมารบกวนฉันอีก (อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) ถึงตอนนั้นฉันก็จะหิวขึ้นมาแล้ว (ทุกคนหัวเราะ) เพราะต้องวิ่งไปวิ่งมา เพราะฉะนั้นของอะไรที่เหลืออยู่ ไม่สำคัญหรอกว่ามันจะเป็นอะไร มันก็จะอร่อยมากทั้งนั้นแหละ(ทุกคนหัวเราะ) บำรุงกำลังและมีพลังพรเยอะแยะเลย

"ฉันสวดถึงอาจารย์ชิงไห่ก่อนกินด้วย (อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) แล้วท่านก็อวยพรอาหารของฉัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าฉันจะกินอะไรมันก็กลายเป็นน้ำอมฤตไปหมด ร่างกายของฉันก็แข็งแรง อาหารก็ถูกปาก ฉันมีความพึงพอใจ ดังนั้นฉันจึงสามารถบริการครอบครัวของฉันได้อย่างดีที่สุดหลังจากที่ฉันได้กินอิ่มหนำสำราญกับอาหารอร่อยๆ ไปคนเดียวอย่างเงียบๆและสงบสุข เมื่อทุกคนกินอิ่มและพอใจกันหมดแล้ว พวกเขาก็รักฉันเช่นกัน และก็แน่นอนที่ความรู้สึกรักของพวกเขานี้ก็ได้อวยพรให้แก่ฉันด้วย เพราะว่าฉันดูแลพวกเขาอย่างดีมาก ดังนั้นความหวังดีและความรู้สึกพึงพอใจของพวกเขาก็จะอวยพรให้แก่ฉัน และฉันก็จะได้รับผลบุญจากความสุขของพวกเขาด้วย นั่นก็คือเคล็ดลับของการกินดี”

พวกเขาก็พูดต่อไปว่า “เธอนอนหลับอย่างสบายทุกคืนเลยหรือ? เธอห่วงแต่เรื่องนอนเท่านั้นหรือ?”  เธอก็ตอบว่า “เปล่า! ที่แม่ของฉันพูดว่าหลับให้สบายนั่นหมายความว่า หลังจากที่ทุกคนนอนหลับกันหมดแล้ว ฉันก็ดูแลประตูหน้าต่างทุกบาน ดับไฟทุกดวง และให้มั่นใจว่าทุกอย่างเข้าที่เรียบร้อยและปลอดภัยเพื่อขโมยจะได้ไม่เข้ามา ดูแลสมาชิกครอบครัวทุกคนให้หลับสบาย แล้วฉันก็ไม่มีอะไรต้องห่วงอีก ใจของฉันก็จะสงบและผ่อนคลายมาก เพราะรู้ว่าพวกเขาได้รับการดูแลอย่างดี อบอุ่นอยู่ในผ้าห่มกันหมดแล้ว และพวกเขาจะนอนหลับกันไปตลอดคืน ไม่มีทางลุกขึ้นมารบกวนฉัน หรือร้องขออะไร หรือไม่สบายป่วยไข้อะไร แล้วฉันก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก ถึงตอนนั้นฉันก็จะนอนหลับสบายเหมือนกัน เพราะว่าไม่มีอะไรอื่นอีกที่ฉันจะต้องทำ (อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) นั่นคือความหมายที่แม่ฉันพูดถึง”

คนอื่นๆ ต่างก็รู้สึกประหลาดใจและประทับใจในปัญญาของผู้เป็นแม่รวมทั้งปัญญาของลูกสาวด้วย แน่นอน แม่เป็นอย่างไร ลูกก็เป็นอย่างนั้น  “แล้วข้อสุดท้ายล่ะ ช่วยอธิบายข้อสุดท้ายด้วย โอ! ทำไมเธอต้องแต่งตัวให้สวยด้วย?”  เธอก็ตอบว่า “ใช่แล้ว! การแต่งตัวสวยหมายถึงเธอต้องแต่งตัวให้เหมาะให้ควรและให้เรียบร้อยอยู่เสมอ เธอต้องแต่งตัวไปพร้อมกับยิ้มกว้างไปด้วยเวลาเธอตื่นนอนตอนเช้าและตอนสุดท้ายก่อนจะเข้านอน แต่งตัวเธอด้วยความรักความกรุณาซึ่งพระเจ้าได้มอบไว้ให้ในดวงใจของเธอ ฉะนั้นเวลาคนพบเห็นเธอ พวกเขาก็จะเห็นเทพธิดาองค์หนึ่ง เห็นความรักที่จารึกอยู่บนใบหน้าของเธอ เห็นพระพรที่ฉายอยู่ในแววตาของเธอ เห็นพระเจ้าในรอยยิ้มอันเมตตากรุณาของเธอ นั่นก็คือสิ่งที่แม่ของฉันหมายถึงในเรื่องการแต่งตัวให้สวย

“ฉะนั้นนั่นก็คือวิธีที่ฉันแต่งตัวของฉันเองทุกวัน นั่นก็คือวิธีที่ฉันบำรุงตัวเองให้มีสุขภาพดีทุกวัน นั่นก็คือวิธีที่ฉันนอนหลับฝันดีทุกคืน และถ้าพวกเธอทุกคนทำอย่างนี้ สมาชิกครอบครัวของเธอ พ่อแม่พี่น้องของสามีเธอก็จะเป็นเหมือนกับของฉันที่นี่!”  เพราะฉะนั้นทุกคนจึงก้มหัวเคารพ ปรบมือ ยิ้ม และแต่งตัวพวกเขาเองอย่างสวยงามแล้วก็กลับบ้านไป