การเดินทางแสดงธรรมทั่วโลก พ.ศ.2536

ท่านอาจารย์และลูกศิษย์เดินทางข้ามทวีปและข้ามทะเล

เพื่อหว่านเมล็ดพันธ์จิตวิญญาณทั่วโลก

ลื่นทางจิตวิญญาณได้ก่อตัวขึ้นเมื่อคลื่นแสงได้สาดส่องไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในพ.ศ.2536 อาจจะนับได้ว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของโลกของเราที่ผู้คนหลายชาติภาษาได้รับโอกาสซึ่งหายาก ในการที่จะได้ฟังและได้ยลโฉมอาจารย์ผู้รู้แจ้งเปิดเผยความลับแห่งชีวิตนิรันดร จากเดือนมีนาคม – มิถุนายน 2536 ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่และผู้ช่วยของท่านได้บินนับเป็นพันๆ ไมล์ เพื่อเดินทางไปยังเมือง 24 แห่ง ใน 16 ประเทศ เพื่อแบ่งปันข่าวสารแห่งสัจธรรมกับผู้คนทั่วโลก ท่านอาจารย์ได้แสดงธรรมฟรีต่อสาธารณชน 28 ครั้ง และได้เปิดให้มีการพูดคุยกับผู้ประทับจิตทั้งใหม่และเก่ามากกว่า 30 ครั้ง รวมทั้งการให้สัมภาษณ์นับไม่ถ้วน การแสดงธรรมและการพูดคุยที่ไม่เป็นทางการเหล่านี้ ได้เปิดโอกาสให้สรรพสัตว์นับไม่ถ้วนได้รับการหลุดพ้น และมีโอกาสยุติการท่องเที่ยวพเนจรไปภายในภูมิภพที่ต่ำกว่าของจักรวาล

พวกเราระลึกด้วยความสุขถึงการเดินทางแสดงธรรมทั่วโลกครั้งนี้ ซึ่งได้สั่นคลอนจักรวาลจนถึงแก่นและได้รับความชื่นชมและความเคารพนับถือจากแม้กระทั่งพระเจ้าและนักบุญทั้งหลาย เราจึงได้เรียบเรียงเป็นหนังสือ 6 เล่มสำหรับท่าน เป็นการให้สัมภาษณ์ 2 ครั้ง และการแสดงธรรมที่เป็นทางการ 28 ครั้งโดยท่านอาจารย์ และรายงานเป็นจำนวนมากจากกลุ่มข่าวซึ่งติดตามท่านไปในการเดินทางครั้งนี้ ในธรรมสารฉบับนี้ ผู้ประทับจิตที่ได้เข้าร่วมงานหลายหลากของการเดินทางทั่วโลกครั้งนี้ มีความยินดีที่จะแบ่งปันความทรงจำทั้งหลายของพวกเขากับท่าน ซึ่งพวกเขาได้รับจากประสบการณ์การทำงานของพวกเขา

 

 

การเตรียมงานสำหรับการเดินทางแสดงธรรมทั่วโลก พ.ศ.2536

 

ในตอนต้นปี 2536 หลังจากฌานนานาชาติ 7 วันในซันตี้เหมิน ผิงตง ฟอร์โมซา ท่านอาจารย์ได้ย้ายไปยังศูนย์ไหลอี้ ฟอร์โมซา และพำนักอยู่ที่นั่นเป็นระยะเวลาหนึ่ง ภายใต้ความสงบสุขและความรัก ผู้พำนักยาวและลูกศิษย์ฆราวาส รวมทั้งผู้ที่เป็น “ลูกศิษย์” ต่างๆ ได้ใช้เวลาที่มีความสุขยิ่งกับท่านอาจารย์ ในระหว่างนั้น การเตรียมงานสำหรับการเดินทางแสดงธรรมทั่วโลกของท่านอาจารย์ก็ได้เริ่มดำเนินการ การเดินทางซึ่งจะทำให้การตระหนักรู้ทางด้านจิตวิญญาณของโลกถูกยกระดับให้สูงขึ้นอย่างใหญ่หลวงกำลังจะเริ่มต้น

จุดที่จะไปหยุดตามกำหนดการมีหลายแห่งที่มีเพื่อนประทับจิตเป็นจำนวนน้อยมาก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีคณะผู้ติดตามซึ่งประกอบด้วยเพื่อนประทับจิต กลุ่มนี้จะติดตามท่านอาจารย์ไปในการเดินทางทั่วโลกเพื่อตระเตรียมงานสำหรับการบรรยายธรรมในแต่ละแห่ง ด้วยการจัดการอันมหัศจรรย์ของพระเจ้าและพระพรของท่านอาจารย์ เพื่อนประทับจิตที่เหมาะสมกับงานนี้จึงได้ปรากฏตัวขึ้นมาทีละคนๆ หลังจากที่ได้ผ่านช่วงเวลาแห่งการชำระล้างให้บริสุทธิ์ทางด้านจิตวิญญาณ

 
ความรักส่องแสงมายังพวกเรา
 

ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2536 ท่านอาจารย์ได้แสดงธรรมแก่สาธารณชนในฟอร์โมซา เกาะซึ่งท่านอาจารย์ได้พำนักมา 10 ปี และได้ทิ้งรอยเท้าอันงดงามของท่านและความรักทั่วทุกมุม ในวันแสดงธรรม ผลงานทางศิลปะของท่านอาจารย์ได้ถูกจัดแสดงในห้องโถงของหอประชุม ท่านอาจารย์ได้ออกแบบกรอบภาพเขียน และเพื่อนประทับจิตที่เป็นช่างไม้ได้ทำอย่างรีบเร่งในคืนก่อนการแสดงธรรม กรอบรูปเหล่านี้ต่างไปจากกรอบรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ใช้กันอยู่ทั่วไป และมีรูปทรงตั้งแต่รูปหัวใจไปจนถึงรูปรี รูปแปดเหลี่ยมและอื่นๆ ตามจิตตารมณ์ของภาพเขียน ท่านอาจารย์ได้จุดประกายปัญญาในตัวลูกศิษย์ของท่าน ทำให้ช่างไม้ที่เป็นเพื่อนประทับจิตสามารถก้าวข้ามความมั่นใจ และความสามารถอันมีขีดจำกัดของพวกเขา

ผู้ที่มาชมภาพเขียนต่างก็ประหลาดใจในกลมกลืนกันระหว่างภาพเขียนและกรอบรูป รวมทั้งองค์ประกอบของรูปแบบและสีสันทีสมบูรณ์พร้อม ได้มีการแสดงพัดของท่านอาจารย์ด้วย และหัวข้อทางเซนที่เข้มข้นได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้ไตรตรองถึงความหมายที่ลึกที่สุดของการบำเพ็ญทางด้านจิตวิญญาณ สีสันที่สดใสและการออกแบบที่กลมกลืนได้สัมผัสความเป็นตัวตนที่อยู่ข้างในลึกสุดของเรา

ในเวลาเที่ยงคืน ผู้ประทับจิตได้รวมตัวกันเพื่อฟังคำสอนอันจริงจังของท่านอาจารย์ และดื่มด่ำไปกับการปรากฏกายของท่านอีกครั้งก่อนที่ท่านจะจากไป และในวันรุ่นขึ้นท่านอาจารย์และคณะผู้ติดตามก็ได้ออกเดินทาง งานทางศิลปะของท่านอาจารย์ก็ได้ถูกนำไปกับการเดินทางครั้งนี้ด้วย และได้กลายเป็นเพื่อนที่เงียบในบทบาทที่ไม่ใช้คำพูด ซึ่งนับว่ามีความสำคัญในการแบ่งปันสัจธรรม

 

 
จุดแรก อินโดนีเซีย
 
 

อินโดนีเซีย ท่ามกลางการเลือกตั้งทั่วไปได้อยู่ภายใต้กฎอัยการศึกในช่วงที่อาจารย์ไปถึง การบรรยายสาธารณะและการใช้ไมโครโฟนถูกห้าม ด้วยจิตตารมณ์ที่ไร้ตัวตนและไร้ความกังวลเพื่อสัจธรรม เพื่อนประทับจิตได้สร้างสะพานระหว่างท่านอาจารย์และผู้ที่มีบุญสัมพันธ์กับท่าน เมื่อหวนระลึกไปถึงการพบปะที่มีความสุข พี่ชาวชิวหมินฟิงได้กล่าวว่า

 

“แม้ว่าผู้ฟังจะทราบว่า ท่านอาจารย์ไม่ได้รับอนุญาตให้แสดงธรรม พวกเขาก็ยังคงอยู่ในห้องประชุม รอคอยการมาของท่าน ซึ่งเมื่อท่านมาถึงแล้ว ก็ได้ถูกล้อมรอบโดยผู้คนซึ่งต้องการได้รับพระพร พวกเราซึ่งเป็นธรรมบาลรู้สึกซาบซึ้งใจในความกระหายสัจธรรมและการหลุดพ้นของผู้คน ซึ่งยังอยู่ในความทรงจำของพวกเราอย่างแจ่มใสแม้กระทั่งทุกวันนี้”

 

ในสมัยก่อน ท่านโพธิธรรมได้รับเชิญให้มาบรรยายธรรม ท่านไม่ได้พูดแม้กระทั่งคำเดียว แต่ผู้คนก็ได้รับการรู้แจ้ง สิ่งนี้ก็เป็นจริงเหมือนกันสำหรับท่านอาจารย์ในอินโดนีเซีย ท่านสอนในความเงียบและได้ให้พรผู้แสวงหาสัจธรรมมากกว่า 4,000 คน ซึ่งอยู่ ณ ที่นั้นด้วยสายตาอันเต็มไปด้วยความรักของท่าน นี่คือตัวอย่างของการถ่ายทอดสัจธรรมโดยที่ไม่ใช้คำพูดอันแท้จริง

 
 
 
 
จุดที่ 2 สิงคโปร์
 

เมื่อเพื่อนประทับจิตในสิงคโปร์ได้รับทราบข่าวการมาของท่านอาจารย์ ก็ได้รีบจัดตั้งทีมทำงานเพื่อแจกจ่ายงานที่มีมากมาย ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนประทับจิตจำนวนมากจากฟอร์โมซา งานทั้งหมดจึงสำเร็จลุล่วงไปอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยพระพรของท่านอาจารย์ การขออนุญาตแสดงธรรม การจัดพิมพ์หนังสือตัวอย่างและใบปลิวนับหมื่นๆ ชิ้น และการติดโปสเตอร์ในที่สาธารณะต่างก็เป็นไปอย่างราบรื่น งานทุกอย่างสำเร็จเรียบร้อยภายในระยะเวลาอันสั้นและด้วยต้นทุนที่ต่ำมาก เกือบจะทุกตึกในประเทศมีภาพโปสเตอร์อยู่บนผนัง ทั้งประเทศยังได้รับการแจ้งให้ทราบถึงข่าวการมาของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่และการแสดงธรรมของท่าน

 
 

เมื่อท่านอาจารย์ได้มาถึงสิงคโปร์ ท่านรู้สึกประทับใจในเศรษฐกิจที่ก้าวหน้า สภาพแวดล้อมที่สะอาด พลเมืองที่มีวินัย และการนำประเทศอันชาญฉลาด ท่านได้ชี้ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นถึงจิตสำนึกทางด้านจิตวิญญาณในระดับสูง ในระหว่างการแสดงธรรม ผู้ฟังที่กระตือรือร้นอัดแน่นเต็มหอประชุม ในขณะที่มีผู้คนอีกนับพันๆ คนชุมนุมกันอยู่ข้างนอก จากการต้อนรับอันอบอุ่นที่พวกเขาให้กับท่านอาจารย์ หัวใจอันมีความสุขและความมีใจเปิดกว้างของพวกเขาและคำถามในระดับสูงของพวกเขา เราก็สามารถบอกได้ถึงระดับทางด้านจิตวิญญาณของพวกเขาว่ามีความก้าวหน้ามาก ท่านอาจารย์ได้กระตุ้นให้พวกเขาเน้นให้มากขึ้นทางแง่จิตวิญญาณพร้อมๆ กับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ เพื่อว่าความเจริญรุ่งเรืองของพวกเขาจะได้ยั่งยืนถาวรและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งจะยังประโยชน์ให้กับทั้งประเทศและกับแต่ละบุคคล

 
 
 
 
จุดที่ 3 ออสเตรเลีย
 
 

ได้จัดให้มีการแสดงธรรม 5 ครั้งในนคร 3 แห่งของออสเตรเลีย และการแสดงธรรมแต่ละครั้งก็ได้ดึงดูดฝูงชนที่แสวงหาสัจธรรม ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ เอาหลัก และภาษาจีน ก็ได้เสนอข่าวเหตุการณ์เหล่านี้ และแนะนำให้รู้จักคำสอนของท่านอาจารย์ ความกระหายในสัจธรรมของผู้คนได้สร้างความประทับใจให้กับกลุ่มทีมทำงาน และได้ให้กำลังใจกับทุกคนที่จะมีความพยายามยิ่งขึ้น พี่ชายจวงหงต๋าได้เล่าประสบการณ์หนึ่งของเขาว่า “ในซิดนีย์เราได้พบสามีภรรยาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ภรรยาได้เคยอ่านหนังสือของท่านอาจารย์ในเซี่ยงไฮ้ และชอบคำสอนของท่านนับแต่นั้นมา หล่อนไม่สามารถที่จะต่อวีซ่าได้ และเป็นห่วงว่าจะไม่สามารถพบท่านอาจารย์ได้ 

วันที่ท่านอาจารย์มาถึง กลุ่มทำงานของพวกเราได้รับมอบหมายให้ไปแจกจ่ายหนังสือตัวอย่าง เราได้พบผู้หญิงคนนี้ในรถไฟ และหล่อนได้พาพวกเราไปยังสถานที่หลายแห่งเพื่อไปแจกหนังสือตัวอย่าง หลังจากนั้นเราก็ได้พาหล่อนกลับมากับพวกเราเพื่อไปพบท่านอาจารย์ ทันทีที่หล่อนได้เห็นอาจารย์ หล่อนก็ได้เริ่มร้องไห้ ความตื่นเต้นและความปรารถนาที่จะได้รับความพึงพอใจทางด้านจิตวิญญาณของหล่อนได้ทำให้พวกเราตระหนักถึงโอกาสที่สำคัญซึ่งพวกเราได้มีส่วนร่วมในการเดินทางบรรยายธรรมทั่วโลกครั้งนี้ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง มิน่าเล่า ท่านอาจารย์จึงได้ทำให้ความยากลำบากและอุปสรรคทั้งหลายที่ท่านได้เผชิญขณะเดินทางไปทั่วโลกนั้นเบาบางลง ท่านได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกแกะที่หลงทาง และได้พยายามที่จะหาลูกแกะแต่ละตัวซึ่งได้หมายเอาไว้สำหรับท่าน

 
 

จุดที่ 4 ฮาวาย

 
วิดีทัศน์บรรยายธรรมของท่านอาจารย์ได้เปิดฉายให้ประชาชน ทางสถานีโทรทัศน์ในฮาวายเป็นเวลาหลายเดือน ดังนั้น คนเป็นจำนวนมากจึงคุ้นเคยกับอาจารย์ และมีเป็นจำนวนมากที่ต้องการรับการประทับจิตเข้าสู่ธรรมวิถีกวนอิม เมื่อพวกเขาทราบว่าท่านอาจารย์กำลังจะมาแสดงธรรมพวกเขาก็รู้สึกปีติยินดี
 
ได้มีการแสดงธรรม 2 ครั้งในโฮโนลูลู ผู้ฟังจากทุกวงการอัดแน่นเต็มสถานที่แสดงธรรม ครึ่งหนึ่งของผู้ฟังเป็นชาวตะวนตก อีกครึ่งหนึ่งเป็นคนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย คำพูดอันเปิดเผยของท่านอาจารย์เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ท่านได้ให้แสงสว่างว่า การรู้แจ้งจะนำไปสู่ชีวิตที่มีความสุขได้อย่างไร ท่านได้ทำให้ผู้ฟังเข้าใจถึงการมองอันลึกซึ้งของท่านด้วยการใช้ถ้อยคำที่เรียบง่าย ความสง่างามและความมีปฏิภาณของท่านทำให้ได้รับเสียงปรบมือและเสียงหัวเราะซ้ำแล้วซ้ำอีก
 
 

จุดที่ 5 เม็กซิโก

 
 

เพื่อบรรยายถึงเรื่องที่ว่าการแสดงธรรมได้ถูกจัดการอย่างไร พี่ชายหวงหงไห่ได้กล่าวว่า “ในเวลานั้นไม่มีผู้ประทับจิต หรือเพื่อนในเม็กซิโกสักคนเลยที่จะให้ความช่วยเหลือได้ แล้วก็มีอดีตนางงามจักรวาลโทรศัพท์เข้ามายังศูนย์คอสตาริกาบอกว่า เธอได้อ่านหนังสือตัวอย่างของท่านอาจารย์ และต้องการได้รับการประทับจิตเข้าสู่ธรรมวิถีกวนอิม เธอได้พยายามที่จะค้นหาว่า อาจารย์อยู่ที่ใดตั้งแต่ที่ได้อ่านหนังสือเป็นครั้งแรก

 

 จากการช่วยเหลือของผู้รอประทับจิตผู้นี้และเพื่อนคนหนึ่งของเธอ รวมทั้งความพยายามร่วมกันของผู้ประทับจิตจากฟอร์โมซา อเมริกา จีนแผ่นดินใหญ่ อเมริกากลางและอเมริกาใต้ คนนับพันจึงได้เข้าฟังการบรรยายธรรม

การแสดงธรรมในเม็กซิโกนี้ได้กลายเป็นการแสดงธรรมที่มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งที่สุดในบรรดาการแสดงธรรมทั้งหลายของท่านอาจารย์ในอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ จากการเล่าเรื่องทั้งหมดและการติดตามผลในช่วง 2-3 ปีถัดจากนั้น เราก็ยิ่งแน่ใจเพิ่มขึ้นในพลังอันสุดประมาณ และการมีตัวตนอยู่ทุกหนแห่งของท่านอาจารย์

 

พี่สาวหวังลี่จิ้งได้บอกพวกเราว่า “ชานกรุงเม็กซิโก มีสิ่งปรักหักพังของวัฒนธรรมมายาโบราณ ซึ่งย้ำเตือนเราถึงยุคที่รุ่งโรจน์และสูงส่งทางด้านจิตวิญญาณ ซึ่งชาวเม็กซิกันมีชีวิตอยู่ แม้ว่าวัฒนธรรมมายาจะได้จางหายไป แต่จิตใจอันบริสุทธิ์ของชาวลาตินอเมริกัน เมื่อเราติดภาพโปสเตอร์ที่มีรูปของท่านอาจารย์ คนเป็นจำนวนมากก็ได้มาขอรูปโปสเตอร์นั้น เราต้องอธิบายซ้ำๆ ว่า เราให้ภาพเหล่านั้นแก่พวกเขาไม่ได้จนกว่าการแสดงธรรมจะจบลง เมื่อเราติดรูปโปสเตอร์บนเสาไฟฟ้า พวกเขาก็จูบภาพของท่านอาจารย์ที่อยู่บนโปสเตอร์นั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก จากการค้นหาข้อมูลในความจำของเรา เราก็ไม่สามารถหาบันทึกที่แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นที่แรงกล้าเหมือนอย่างพวกเขาได้ การแสดงธรรมได้ถูกจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัย เราชูภาพให้นักศึกษาได้รู้ถึงการแสดงธรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น นักศึกษาก็ได้กล่าวทักทายกับพวกเราอย่างอบอุ่นและถามชื่อของพวกเรา พวกเขาทำตัวสนิทสนมจนเรารู้สึกเหมือนว่า พวกเขาเป็นพี่น้องของเรา แม้ว่าชาวเมืองจะไม่ร่ำรวย แต่พวกเขาก็ซื้อหนังสือของท่านอาจารย์มากกว่าคนจากที่อื่นๆ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าพวกเขารักคำสอนของท่านอาจารย์มากเพียงไร”

 
 

จุดที่ 6 สหรัฐอเมริกา

 

จากเม็กซิโกท่านอาจารย์ก็ได้เข้าสหรัฐอเมริกาที่นครลอสแองเจลิส เมือง 4  แห่งที่ท่านได้ไปเยี่ยมคือ  ลอสแองเจลิส   ซีแอทเทิล เดนเวอร์ และกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

 

พลังอันยิ่งใหญ่ของท่านอาจารย์ได้กระตุ้นเพื่อนประทับจิตให้ร่วมมือกันด้วยประสิทธิภาพสูง แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยพบกันมาก่อนพวกเขาก็ทำงานเหมือนมืออาชีพ พี่ชายหยังชวนผิง ได้เล่าเรื่องที่น่าในใจให้พวกเราฟังว่า “ในซีแอตเทิลเราพบว่า ยิ่งเราแจกใบปลิวมากเท่าไร มันก็ยังเพิ่มจำนวนมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเราได้แสดงความประหลาดใจของเรา คนหนึ่งก็ได้บอกให้เราฟังว่า ผู้ประทับจิตชาวอเมริกัน เมื่อพวกเขาแจกใบปลิว พวกเขาก็จะพิมพ์มันขึ้นมาใหม่มากกว่าที่พวกเขาเอาไป เพื่อนประทับจิตอาจจะอาศัยอยู่ในส่วนต่างๆ ของประเทศ แต่ความปรารถนาของพวกเขาที่จะสนับสนุนงานของท่านอาจารย์นั้นเหมือนกัน”

 

พี่ชายสูเจิ้นปัง สมาชิกคนหนึ่งในทีมทำงานได้เล่าว่า “ครั้งหนึ่งเราได้พบคนไร้ที่อยู่ในอเมริกา ท่านอาจารย์ได้แสดงความห่วงใยและความรักอย่างเป็นธรรมชาติ ท่านได้เดินขึ้นไปหาทันทีและพูดคุยกับพวกเขา แล้วท่านก็ได้ขอให้เราหาว่ามีคนไร้ที่อยู่อาศัยจำนวนเท่าไหร่ในบริเวณนั้น ถ้าหากเราพบว่า ยกตัวอย่างมีอยู่ 50 คน ก็ให้คุณ 2 เป็น 100 คน เมื่อเรารายงานต่อธรรมทูตกวนอิม ด้วยเหตุที่กลัวว่าเราจะไม่ได้นับพวกเขาทั้งหมด เมื่อธรรมทูตกวนอิมรายงานให้ท่านอาจารย์ทราบ เขาก็เพิ่มจำนวนอีกครั้งเป็น 200 เมื่อท่านอาจารย์บอกให้เราซื้อของให้พวกเขา ท่านก็คูณ 2 เข้าไปอีกครั้งหนึ่งกลายเป็น 400 เราก็เลยมีของแจกเหลือหลังจากที่ได้แจกจ่ายไปแล้ว ทำให้เราต้องไปยังที่อื่นเพื่อไปหาคนอื่นที่ต้องการสิ่งของเพื่อที่จะแจกจ่ายของที่เหลือ”

 

อีกประสบการณ์หนึ่งที่น่าสนใจในการเดินทางทั่วโลกของท่านอาจารย์ในอเมริกาคือ เรื่องของผู้ติดต่อประสานงานจากโคโลราโด เขาได้ให้ข้อคิดเห็นว่า เมื่อตระเตรียมงานแสดงธรรมของท่านอาจารย์ เขาสามารถทำงานได้ทั้งวันทั้งคืนโดยที่ไม่ต้องนอนเลย และหลังจากงานแสดงธรรมเขาก็ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ในทางตรงข้ามเขาเต็มไปด้วยพละกำลังคล้ายกับว่าเขาเพิ่งไปพักร้อนมาหยกๆ เขาบอกว่า จาการทำงานของเขาในการเดินทางครั้งนี้ เขาก็ได้ตระหนักว่า ท่านอาจารย์ไม่ใช่เป็นเพียงแค่อาจารย์ในระดับสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนที่อยู่ใกล้ตัวอีกด้วย ผู้ที่ทุ่มเททั้งชีวิตจิตใจให้กับงานของพระเจ้า จะได้รับความสุขทางด้านจิตวิญญาณทุกชนิด

 
 

จุดที่ 7 มอนทรีล แคนาดา

 
 

เพื่อที่กระจายข่าวการแสดงธรรมที่กำลังจะมาถึง เด็กที่ไม่ได้รับการประทับจิต 2-3 คน จึงถูกเกณฑ์ให้เข้ามาเป็นกองหน้า พี่สาวหวงชาวเอาหลัก สมาชิกในทีมทำงานได้เล่าเรื่องว่า “ในมอนทรีล ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการและใช้กันโดยทั่วไป แต่เพื่อนประทับจิตที่เพิ่งอพยพเข้ามาใหม่ พูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ นอกจากนั้น สมาชิกทีมทำงานส่วนใหญ่ก็แทบจะพูดกันเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้เลย โชคดีผู้อพยพใหม่เหล่านี้มีลูกอายุ 10 ขวบ ที่พูดภาษาฝรั่งเศสได้นิดหน่อย พวกเราจึงพึ่งพาอาศัยเขาให้นำทางและแปลให้พวกเรา นักบุญตัวน้อยๆ เหล่านี้ได้นำพาพวกเราด้วยความดีอกดีใจ ขณะที่พวกเรานั่งรถไฟใต้ดินและต่อรถจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง พวกเขาทำงานกันตั้งแต่ 7 โมงเช้าไปจนถึงค่ำ ด้วยยิ้มอันน่ารักและความช่ำชองในภาษาฝรั่งเศสของพวกเขา พวกเขาก็ได้แนะนำท่านอาจารย์และคำสอนของท่านให้กับผู้คนในเมือง แม้ว่าอากาศในมอนทรีลจะหนาวมาก นักบุญตัวน้อยๆ เหล่านี้ก็ได้เป็นพาหนะถ่ายทอดข่าวสาร และความรักของท่านอาจารย์ซึ่งทำให้เมืองมอนทรีลอบอุ่นขึ้นมา

 

พี่ชายหวงจงต๋าได้เล่าให้ฟังอีกเรื่องหนึ่งว่า “คุณปู่ซึ่งมาจากที่ไกลเพื่อมาเยี่ยมครอบครัวของเขาก็ได้ร่วมทีมทำงานด้วย โดยยืนแจกใบปลิวทั้งวันให้กับคน” ต่อมาในภายหลังคุณปู่ผู้เฒ่านี้ซึ่งมีอายุเกินกว่าที่จะประทับจิตได้และเด็กอีกหลายคนที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์ก็ได้รับการประทับจิตโดยได้รับการยกเว้น ความมีโชคดีที่ได้รับการประทับจิต ทั้งๆ ที่โดยเทคนิคแล้วไม่มีสิทธิ์นั้น เกิดขึ้นจากความพยายามอันมาจากการกระทำอันไร้ตัวตนของพวกเขา

 

พี่สาวหวังซึ่งมายังแคนาดาเพื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ทนุถนอมในความมีโชคดีของเขาที่ได้มีส่วนร่วมในการเตรียมงานแสดงธรรม การทำงานของเขาให้กับท่านอาจารย์ได้นำให้เขาเข้าใกล้สัจธรรมมากยิ่งขึ้น และปูทางไปสู่อนาคตที่สดใส เขาได้เขียนไว้ว่า “ตกกลางคืนพวกเราเพื่อนประทับจิตก็นอนกันเต็มบ้าน พวกเรานอนบนพื้นไหล่ชนไหล่ ธรรมทูตกวนอิมซึ่งนอนอยู่ข้างๆ ฉัน เต็มไปด้วยพละกำลัง เขาเป็นคนแรกสุดเสมอที่ตื่นขึ้นในตอนเช้า ขณะที่ฉันกำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารเช้าของฉัน เสียงเรียกที่ว่า “ไปกันเถอะ!” มักจะย้ำเตือนฉันว่า ฉันจะต้องเรียนรู้ที่จะทำอะไรไวๆ ครั้งหนึ่งฉันได้ยินธรรมทูตกวนอิมพูดว่า “ในบริเวณที่มีภัยแล้ง เราจะพบดวงวิญญาณที่หิวกระหายได้ทุกหนแห่ง” ฉันได้ตระหนักว่า พลังแห่งความมุ่งมั่นอันยิ่งใหญ่และก้าวอันฉับไวของเขาในการแบ่งปันสัจธรรมกับผู้อื่น มาจากความตระหนักรู้ของเขาถึ่งการติดต่อเชื่อมโยงทางจักรวาลระหว่างดวงวิญญาณทุกดวง การอุทิศตนของเขาทำให้เขาไม่สนใจ และก้าวข้ามขีดจำกัดของสภาพร่างกายของเขาไปได้ พวกเราทุกคนรู้สึกซาบซึ้งประทับใจในความไร้ตัวตนของเขา”

 
 

กลับไปยังยุโรป

 

ท่านอาจารย์มีกำหนดการที่แน่นมากในยุโรป ภายในครึ่งเดือนท่านไปเจนีวา ปารีส เวียนนา บรัสเซลล์ มิวนิค และเบอร์ลิน ได้มีการแสดงธรรม 7 ครั้งในคราวเดียวกัน ผู้คนเป็นจำนวนมากได้คุ้นเคยกับท่านอาจารย์และธรรมวิถีกวนอิม ในระหว่างการบรรยายธรรมท่านอาจารย์ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวและสถานีวิทยุในสถานที่แสดงธรรม งานทางด้านศิลปะรวมทั้งภาพเขียน โคมไฟอายุยืน และพัดของท่านอาจารย์ก็ได้ถูกจัดแสดง สำหรับชาวยุโรปซึ่งมีความประณีตละเอียดอ่อน ศิลปะมักจะพูดดังกว่าคำพูดเสมอ

 

ก่อนการแสดงธรรมมีเพื่อนประทับจิตอยู่หยิบมือหนึ่งเท่านั้นในยุโรป และส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาต่างชาติ เป็นเวลาหลายปีที่พวกเขาได้แปลหนังสือตัวอย่างออกมาเป็นภาษาต่างๆ ในวันหยุดพวกเขาก็จะขับรถจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง เพื่อแจกหนังสือตัวอย่างในบริเวณที่มีคนอยู่อาศัยหนาแน่น ภายในช่วงเวลาไม่กี่ปีพวกเขาก็ได้แจกหนังสือตัวอย่างไปหลายพันเล่ม ในระหว่างนั้นพวกเขาก็ได้ส่งคำเชิญซ้ำแล้วซ้ำอีกไปยังท่านอาจารย์ เพื่อเชิญท่านมาแสดงธรรมในยุโรป เนื่องจากความจริงใจและความอุตสาหพยายามของพวกเขาในการแบ่งปันคำสอนของท่านอาจารย์ ในที่สุดความปรารถนาของพวกเขาก็เป็นจริง เมื่อพวกเขาได้ทราบว่า ยุโรปได้ถูกรวมเข้าในการเดินทางบรรยายธรรมทั่วโลกของท่านอาจารย์ในปี 2536

 

เพื่อใช้กำลังคนและเงินอันมีจำกัดให้ได้ประโยชน์สูงสุด เพื่อประทับจิตจากหลายประเทศในยุโรปจึงได้เตรียมงานแสดงธรรมร่วมกัน เมื่อการประกาศแสดงธรรม 6 แห่งได้ถูกพิมพ์ลงบนโปสเตอร์ในเดียวอกมาเป็น 6 ภาษา ความฝันในการรวมตัวกันของยุโรปก็ได้กลายเป็นจริงขึ้นมาและอยู่ในหมู่เพื่อนประทับจิตของพวกเรา! พี่ชายหลู่ซื่อจวง จากออสเตรียได้เล่าถึงเรื่องที่เกิดในปี 2535 ว่า “เราทราบว่าการเดินทางปี 2536 ของท่านอาจารย์เป็นครั้งแรกที่ท่านได้กลับมายังยุโรป ในช่วงเวลามากกว่า 10 ปี กระนั้นก็ดี ในปี 2535 เมื่อเพื่อนประทับจิตไปยังห้องสมุดสาธารณะในเมืองมิวนิคเพื่อแจกหนังสือของท่านอาจารย์ บรรณารักษ์ได้มองดูรูปของท่านอาจารย์บนปกและได้เปล่งร้องว่า หลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ สุภาพสตรีผู้นี้ได้มายังห้องสมุด ต่อมาภายหลัง บรรณารักษ์คนนี้ก็ยังได้เขียนจดหมายให้ความมั่นใจกับพวกเราว่ามันได้เกิดขึ้นจริงๆ “

 
 

จุดที่ 8 เจนีวา, สวิตเซอร์แลนด์

 
 

เมื่อคิดถึงการเดินทางรอบโลกปี 2536 แล้วภาพอันเลอเลิศก็ได้กลับมาสู่ความคิดของพี่ชายจาง “ก่อนที่ท่านอาจารย์จะมาถึงเจนีวา โปสเตอร์บรรยายธรรมก็ได้ถูกติดขึ้นบนกำแพง ตามท้องถนน และตามเสาไฟฟ้าทั่วเมืองและปริมณฑล ไม่มีที่ใดถูกละเลย ทั่วทั้งเมืองปกคลุมไปด้วยบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง” สวิซเซอร์แลนด์ สวนของโลก เบ่งบานไปด้วยดอกไม้ชนบท แต่งกายในชุดที่ดีที่สุดเพื่อต้อนรับท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ และท่านรู้สึกยินดี ท่านหยุดรถของท่านหลายครั้งเพื่อที่จะลงไปเดินท่ามกลางต้นไม้และดอกไม้และสูดอากาศฤดูในไม้ผลิ ชาวสวิสรวมทั้งชาวต่างชาติได้ทักทายท่านอย่างสุภาพงดงาม

 
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ท่านมาถึงสวิซเซอร์แลนด์ ท่านอาจารย์ได้ไปปราศรัยให้บุคลากรฟังในช่วงพักกลางวันตามคำเชิญของสมาคมทางด้านจิตวิญญาณที่สหประชาชาติ คำถามอันจริงใจและคำตอบอันชาญฉลาดของท่านอาจารย์ได้เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาหลายคนขอประทับจิตเข้าสู่ธรรมวิถีกวนอิม คืนวันถัดมา ท่านอาจารย์ได้แสดงธรรมต่อสาธารณชนเป็นภาษาฝรั่งเศสที่มหาวิทยาลัยแห่งเจนีวา ในคืนนั้นผู้ฟังเป็นจำนวนมากได้ตัดสินใจที่จะกินอาหารมังสวิรัติและขอประทับจิตเข้าสู่ธรรมวิถีกวนอิม ตามประเพณีชาวยุโรปจะเคยชินกับการดื่มไวน์พร้อมกับอาหาร และไข่ก็เป็นเครื่องปรุงที่สำคัญในขนมหวานมากมายของพวกเขา เพื่อสัจธรรม พวกเขาได้สละของทั้งหมดเหล่านี้ และสิ่งที่พวกเขาใช้ในการตัดสินใจก็คือ การแสดงธรรมครั้งเดียวโดยท่านอาจารย์ และหนังสือตัวอย่างเล่มเดียวที่เป็นภาษาฝรั่งเศส ความกล้าหาญของพวกเขากเกิดขึ้นจากปัญญาที่ถูกปลุกให้ตื่นของพวกเขา ไชโย!
 
 

จุดที่ 9 ปารีส ฝรั่งเศส

 
 

ในปารีส นครแห่งศิลปะ พระกรุณาของท่านอาจารย์ได้สร้างความยินดีให้กับชาวฝรั่งเศสซึ่งมีจิตใจนิยมความงาม พี่สาวเซีง อดีตผู้ติดต่อประสานงาน และเป็นหนึ่งในเพื่อนประทับจิตไม่กี่คนในปารีสขณะนั้นได้เล่าประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้ฟังว่า “ขณะที่เรากำลังตกแต่งห้องแสดงธรรม ยามที่อยู่ในชุดเรียบๆ ได้มาถามเราเกี่ยวกับงานชุมนุมที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อได้เห็นว่าห้องแสดงมีที่นั่งจุได้ 2,000 คน เขาได้ถามพวกเราว่า พวกเรามีสมาชิกจำนวนเท่าไรในปารีส

 

เมื่อเขาทราบว่าพวกเรามีเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น สีหน้าอันจริงจังของเขาก็ได้กลายเป็นความเห็นอกเห็นใจในขณะที่เขาได้แนะนำด้วยความกรุณาว่า เราควรหาห้องประชุมที่เล็กกว่านี้ โชคดีที่เราไม่ได้ฟังคำแนะนำของเขา! ห้องประชุมซึ่งจุ 2,000 ที่นั่งขนัดแน่นไปด้วยผู้คนที่มาฟังการแสดงธรรมของท่านอาจารย์”

ผู้ประทับจิต 4 คนในปารีสเป็นผู้หญิงทั้งหมดและร่างกายก็ไม่ได้แข็งแรงนัก เมื่อเรายกหนังสือตัวอย่าง 50,000 เล่มลงมาจากรถบรรทุก คนขับรถบรรทุกรู้สึกทึ่งในความแข็งแรง ความรวดเร็ว การทำงานเป็นทีมทำงานและความทรหดทนทานของพวกเรา ๆ ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย! หนังสือเป็นร้อยๆ กล่องถูกวางซ้อนกันอย่างเรียบร้อยที่ข้างถนน แม้กระทั่งคนที่ผ่านไปมากยังอดไม่ได้ที่จะมองดูพวกเราคล้ายกับว่ามองเห็นปาฏิหาริย์ โดยเฉพาะเมื่อมีความคิดอยู่ในหัวถึงชีวิตที่สบายของคนฝรั่งเศสมากมาย เมื่อหวนระลึกย้อนหลังไป หากปราศจากความช่วยเหลือของเทพผู้พิทักษ์ ก็จะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเราจะยกหนังสือตัวอย่าง 50,000 เล่มไปยังศูนย์ของเราซึ่งอยู่บนชั้น 16 ทันทีที่เอาหนังสือตัวอย่างลงมาจากรถบรรทุก”

 

การเตรียมงานแสดงธรรมเป็นไปอย่างราบรื่นพร้อมๆ กับสภาพที่เอื้ออำนวยบ้าง ผู้ชายและผู้หญิงชาวฝรั่งเศสที่รักความงามบางคนก็ได้ถูกดึงมาสู่ภาพของท่านอาจารย์โดยที่คิดว่าท่านเป็นดาราภาพยนตร์ หรือเป็นอาจารย์ทางด้านวิชาเครื่องสำอางค์ ดังนั้น พวกเขาจึงมาถามคำถามและหยิบใบปลิวไปอย่างมีความสุข

 

การแสดงธรรมในฝรั่งเศสประสบความสำเร็จอย่างสูง ส่วนใหญ่ท่านอาจารย์พูดเป็นภาษาฝรั่งเศส แม้ว่าท่านจะไม่ได้ใช้ภาษาฝรั่งเศสมา 10 ปีแล้ว ในห้องโถงของสถานที่แสดงธรรมได้มีการจัดแสดงงานทางด้านศิลปะรวมถึงภาพเขียน พัด โคมไฟอายุยืนและหิน งานด้านศิลปะเหล่านี้ ได้กระจายบรรยากาศแห่งสรวงสรรค์ออกมา ชาวฝรั่งเศสรักศิลปะและดูเหมือนว่ามีบุญสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่กับอาจารย์ที่มีพรสวรรค์และรสนิยมทางศิลปะแบบท่านอนุตราจารย์ชิงไห่

 
 
 

จุดที่ 10 เวียนนา, ออสเตรีย

 

ในเวียนนา ท่านอาจารย์แสดงธรรมเป็นภาษาเยอรมัน นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านอาจารย์แสดงธรรมเป็นภาษาเยอรมัน ท่านทำความพอใจให้กับผู้ที่พูดภาษาเยอรมันมาก ในช่วงถามตอบ คำถามอันจริงใจได้ถูกถามขึ้น และท่านอาจารย์ได้อธิบายอย่างคล่องแคล่วทำให้ความสงสัยและความสับสนงุนงงหายไป ชาวออสเตรียคนหนึ่งได้เล่าให้ฟังถึงเรื่องที่ได้เห็นแสงของพระเจ้าซึ่งไม่อาจพรรณนาได้ในระหว่างการแสดงธรรม หลังจากประทับจิตแล้วท่านอาจารย์ก็ได้นั่งสมาธิกลุ่มร่วมกับพวกเรา เพื่อนประทับจิตใหม่ได้ถือโอกาสนี้ถามคำถามต่างๆ และท่านอาจารย์ได้ตอบจากขุมความรักของท่าน ซึ่งมักจะเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถามเสมอ

 
 
เมื่อหวนระลึกไปถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ เรื่องราวอันน่าขอบคุณเป็นจำนวนมากได้เกิดขึ้นในจิตใจของพี่ชายหลู่ซื่อจวง ผู้ติดต่อประสานงานของศูนย์เวียนนา “จากการที่ได้เห็นความก้าวหน้าของเพื่อนประทับจิตและแนวทางที่พวกเขาดำเนินไปบนเส้นทางบำเพ็ญของพวกเขา ผมก็ได้มองเห็นถึงความตรงไปตรงมาในคำตอบของท่านอาจารย์ที่ดูเหมือนจะเล่นๆ หากผู้ถามฟังคำแนะนำของท่านโดยปราศจากอคติและใส่ใจกับมัน เขาก็จะลดความยุ่งยากลำบากไปได้มากมายในการที่จะต้องเดินบนเส้นทางที่วกวนไปมา คำถามและคำตอบระหว่างท่านอาจารย์และเพื่อนประทับจิตสมบูรณ์พร้อมและเรียบง่ายอย่างแท้จริง ผมรู้สึกขอบคุณและโชคดีที่ผมสามารถทำงานร่วมกับเพื่อนประทับจิตของผมในระหว่างการเดินทางทั่วโลกนี้ ทำให้ได้รับโอกาสในการได้เห็นความรักอันไม่แบ่งแยกและไม่มีเงื่อนไขของท่านอาจารย์และปัญญาสูงสุดของท่าน
 
 

จุดที่ 11 บรัสเซลล์, เบลเยี่ยม

 
 

2-3 วันก่อนการแสดงธรรม สถานีเรดิโอคอนแทคซึ่งเป็นสถานีใหญ่ที่สุดในบรัสเซลล์ได้ออกอากาศเพลงประพันธ์ฮาร์พของท่านอาจารย์ที่เปิดในระหว่างการแสดงธรรมและการแสดงนิทรรศการทางศิลปะโดยได้เปิดหลายครั้งหลายหนในระหว่างรายการ บทประพันธ์เพลงสวรรค์ของท่านอาจารย์จึงได้กึกก้องไปทั่วร้านสรรพสินค้า ร้านขายของชำตามบ้านเรือนและรถยนต์ของบรัสเซซล์ ความรักอันไม่มีพรมแดนของท่านอาจารย์ได้โอบกอดเมืองทั้งเมืองก่อนที่ท่านจะได้มาแสดงธรรมเสียด้วยซ้ำ เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้พี่ชายหวงซึ่งในขณะนั้นเป็นนักศึกษาในเบลเยี่ยมก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้น “เมืองทั้งเมืองอาบอยู่ในเสียงดนตรีของท่านอาจารย์และได้รับการทำให้สะอาด” พวกเราทุกคนรู้สึกยินดีในพระกรุณาอันมากล้นของท่าน

 

ในขณะนั้นเบลเยี่ยมเป็นศูนย์กลางการแจกจ่ายหนังสือของท่านอาจารย์ไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป การขนหนังสือตัวอย่างเป็นตันๆ จึงได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ในการเตรียมการสำหรับการแสดงธรรมของท่านอาจารย์ เป็นเวลา 2 ปีที่พี่ชายหวงได้ขับรถไปมาระหว่างเมืองสำคัญๆ ในยุโรปเพื่อแจกจ่ายหนังสือตัวอย่าง ทำให้เขาคุ้นเคยกับทางหลวงทุกสายในยุโรป และกฎเกณฑ์ที่ชายแดน ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้กลายเป็นคนที่ดูแลเรื่องการขนส่งหนังสือของท่านอาจารย์ไปยังจุดแสดงธรรมแต่ละแห่ง เมื่อได้หวนระลึกไปถึงการผจญภัยของเขาๆ ได้กล่าวว่า “ตู้คอนเทนเนอร์ 1 ตู้ครึ่งซึ่งขนกล่องหนังสือตัวอย่างมากกว่า 1,000 กล่องได้มาถึงสนามบินในประเทศออสเตรียภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง พี่ประทับจิตหญิงและผมก็ได้ขนมันขึ้นรถบรรทุก เจ้าหน้าที่ที่สนามบินรู้สึกงุนงงโดยเฉพาะเมื่อพวกเขาได้เห็นว่าน้ำหนักบรรทุกที่มากเกือบจะทำให้รถบรรทุกแบนติดถนน จากนั้นผมก็ขับรถบรรทุกจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง ขณะที่ท่านอาจารย์และคณะผู้ติดตามของท่านกำลังบินอยู่ในอากาศ ผมก็กำลังแข่งกับพวกเขาบนภาคพื้นดิน ในเวลาเดียวกันทีมทำงาน 2 กลุ่มก็กำลังมุ่งตรงไปยังสถานที่แสดงธรรมด้วยเหมือนกัน เหมือนกับเท้าที่วิ่ง 2 เท้าซึ่งแบกศรีษะของพระเจ้าอยู่”

 
 

จุดที่ 12 มิวนิค และเบอร์ลิน, เยอรมัน

 
 

พี่สาวหวงชาวเอาแลกหวนคิด “ขณะที่กำลังแจกจ่ายใบปลิวและหนังสือตัวอย่างในท้องถนน ผู้คนได้บอกพวกเราว่า พวกเขารู้สึกดีใจและเป็นเกียรติเพียงไรที่ได้ทราบว่า ท่านอาจารย์กำลังจะมาแสดงธรรมในมิวนิคที่ซึ่งท่านเคยใช้ชีวิตอยู่ หรือเคยเป็นแม้กระทั่งเพื่อนบ้านหรือเป็นคนรู้จักของใครบางคน ในวันแสดงธรรมท่านอาจารย์แต่งกายในชุดที่งดงาม ซึ่งเป็นชุดราชสำนักของจีนโบราณ ท่านกล่าวทักทายพวกเราด้วยคำพูดที่คารมคมคาย ฉันจะไม่มีวันลืมความงามอันน่าตะลึงของท่านและความกระฉับกระเฉงซึ่งได้ทำให้ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้พลอยมีจิตใจรื่นเริงไปด้วย”
 

นับเป็นเวลาหลายชาติที่ท่านอาจารย์ได้สร้างบุญสัมพันธ์ที่ดีกับสรรพสัตว์ต่างๆ ท่านอาจารย์ได้ปรากฏตัวท่านในรูปแบบต่างๆ กันตามบุญสัมพันธ์ที่ท่านมีกับสรรพสัตว์เพื่อว่า ดวงวิญญาณของพวกเขาที่มีบุญสัมพันธ์กับท่านจะจำท่านได้ พี่ชายหยังผิงได้เล่าให้ฟังว่า “เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งเห็นภาพที่ท่านอาจารย์กำลังเลล่นฮาร์พอยู่ เขาก็รู้สึกว่า ท่านอาจารย์มีความใกล้ชิดและเป็นที่รักของเขามากจนเขาได้มาหาเราเพื่อขอเทปม้วนนั้น หลังจากแสดงธรรมแล้วเราก็ได้สังเกตเห็นเขายืนเข้าแถวรอที่จะกรอกใบสมัครขอรับการประทับจิต” พี่สาวหวังหลี่จิ้งได้เล่าให้ฟังว่า “ในมิวนิคมีนักไวโอลินคนหนึ่งได้มายังนิทรรศการของเราก่อนการแสดงธรรม และได้จ้องมองดูภาพเขียนภาพหนึ่งของท่านอาจารย์คือภาพ “การรู้แจ้ง” เขาบอกพวกเราว่า เขาได้เคยเห็นภาพนี้มาก่อนในความฝันและรู้ว่า เฉพาะเมื่อเขาได้พบจิตรกรผู้นี้แล้วเท่านั้น เขาจึงจะรู้แจ้ง เนื่องจากว่าเขาติดงานแสดง เขาจึงต้องจากไปก่อนที่การแสดงธรรมจะเริ่มขึ้น เขาเกือบจะร้องไห้แต่ก็รู้สึกค่อยยังชั่วเมื่อเราบอกเขาว่า เขาอาจจะไปฟังการบรรยายธรรมครั้งต่อไปของท่านอาจารย์ที่เบอร์ลินก็ได้”

พี่ชายหลูซื่อจวงได้เล่าเหตุการณ์หนึ่งเมื่อพลังของท่านอาจารย์ได้เปลี่ยนสภาพที่ไม่ดีให้กลายเป็นดี “ด้วยความที่ไม่มีเวลา ผู้ติดต่อประสานงานในเบอร์ลินจึงได้รีบเช่าบาร์แห่งหนึ่ง ตอนที่เราไปทำความสะอาดและจัดแจงสถานที่มีกลินบุหรี่และเหล้าเต็มไปหมด พวกเรารู้สึกหดหู่ใจ “โอ พระเจ้าช่วย! เราจะจัดสมาธิกลุ่มในสถานที่เช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” อย่างไรก็ตามหลังจากที่เราแขวนภาพของท่านอาจารย์บนกำแพงแล้ว บรรยากาศก็ดีขึ้น หลังจากที่อาจารย์มาถึงบรรยากาศก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง คล้ายกับว่าเราอยู่ในสรวงสวรรค์ ภายในเวลาอันสั้นๆ พลังอันไม่อาจมองเห็นได้ของท่านอาจารย์ได้ชำระล้างบรรยากาศให้บริสุทธิ์โดยตลอด ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ!  เมื่อถึงเวลาที่เราต้องจากไป ฉันก็ไม่อยากที่จะจากบาร์ที่ได้รับพระพรอันยิ่งใหญ่นี้เลย”

ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ 18 วัน เมล็ดพันธุ์แห่งการรู้แจ้งได้ถูกหว่านไปทั่วผืนแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ของยุโรปในช่วงระหว่างปี 2536 ถึงปัจจุบัน เมล็ดเป็นจำนวนมากได้เบ่งบาน และขณะนี้ก็กำลังช่วยในหว่านเมล็ดพันธุ์เพิ่มขึ้นทั่วโลก

 
 

จุดที่ 13 โซลและปูซาน, เกาหลี

 

พี่ชายโดริเพื่อนประทับจิตชาวเกาหลีซึ่งได้เข้าร่วมในการแสดงธรรมที่โซลได้เล่าให้ฟังว่า “8 พฤษภาคม 2536 เป็นวันที่พิเศษสำหรับชาวเกาหลี ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่จากเทือกเขาหิมาลัยได้บรรยายธรรมอันยิ่งใหญ่ในเกาหลี คนนับหมื่นๆ คนทราบถึงการแสดงธรรมจากโปสเตอร์และภาพถ่ายที่ติดในเมืองต่างๆ ทั่วเกาหลี พวกเขาได้แห่มายังสถานที่แสดงธรรมเพื่อฟังคำสอนของท่านอาจารย์ มีการแสดงธรรมทางด้านจิตวิญญาณและศาสนามากมายที่ได้เคยจัดขึ้นในเกาหลีมาก่อน แต่ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกจริงๆ ที่การแสดงธรรมขนาดใหญ่เช่นนี้ได้รวมทุกศาสนาและความคิดเอาไว้

 
 

 ในวันนั้นท่านอาจารย์ได้พูดถึงสิ่งที่ใหม่ต่อพวกเราในลักษณะที่เป็นธรรมชาติแต่มีความเป็นพิเศษ แม้ว่าคัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์ทางศาสนาพุทธจะยากที่คนระดับปานกลางจะเข้าใจ ท่านอาจารย์ก็ได้เสนอสัจธรรมในลักษณะที่เรียบง่ายซึ่งทำให้เข้าใจได้ง่าย ท่านพูดอย่างเป็นธรรมชาติและมีอารมณ์ขัน ผู้ที่เข้าฟังสนุกสนานกับการแสดงธรรมที่มีชีวิตชีวาในบรรยากาศอันอบอุ่นทุกคำพูด ทุกประโยคที่ท่านอาจารย์พูดเต็มไปด้วยพลังแห่งความรัก ซึ่งได้สัมผัสลึกลงไปในหัวใจของพวกเรา”

การบรรยายธรรมในปูซานทำให้ชาวเกาหลียิ่งรู้สึกประทับใจมากขึ้น สถานที่แสดงธรรมเป็นสนามกีฬาโอลิมปิคที่สามารถจุคนได้ 30,000 – 40,000 คน ด้วยความกลัวที่ว่าแม้กระทั่งใบปลิว หนังสือตัวอย่าง และโปสเตอร์นับล้านๆ ใบจะไม่เพียงพอที่จะทำให้ที่นั่งเต็มได้ ทีมทำงานของจึงได้ติดแถบผ้าขนาดใหญ่นับร้อยๆ ผืนทั่วเมืองปูซาน 3 วันก่อนการแสดงธรรมเฉกเช่นในอีกหลายๆ ประเทศ เกาหลีก็มีกฎที่เข้มงวดในการติดโปสเตอร์และแถบผ้า แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็รู้สึกซาบซึ้งใจในความมีมานะพยายามและการทำงานหนักของเพื่อนประทับจิต โดยเฉพาะเมื่อการโฆษณาเหล่านี้ได้ถูกกำจัดออกไปทันทีภายในคืนเดียวหลังจากการแสดงธรรม พลเมืองของปูซานรู้สึกทึ่งในวินัยของกลุ่มเรา

 
 

จุดที่ 14 โตเกียว, ญี่ปุ่น

 
 

ชาวโตเกียวเป็นที่ทราบกันดีในเรื่องที่ทำงานภายใต้แรงกดดันอย่างสูงและค่อนข้างจะเย็นชาอยู่สักหน่อย อย่างไรก็ตามความเย็นชาของพวกเขาก็เป็นเพียงแค่ลักษณะปรากฏที่ไม่จริง เพราะภายในนั้นชาวญี่ปุ่นเป็นผู้ที่มีความอบอุ่นและมีความจริงใจ ในช่วงที่แจกใบปลิว เพื่อนประทับจิตชาวฟอร์โมซาซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในญี่ปุ่นได้ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนนักศึกษาของพวกเขาในการแปล นักศึกษาเหล่านี้หลายคนในภายหลังก็ได้เกิดศรัทธาในคำสอนและขอประทับจิตข้าสู่ธรรมวิถีกวนอิมหรือวิถีสะดวก

 

 
ฝนในคืนก่อนการแสดงธรรมไม่ได้เป็นอุปสรรคขัดขวางฝูงชนเลย ผู้คนมาจากที่ใกล้และไกลเพื่อเข้าฟังการแสดงธรรม และห้องประชุมก็แน่นขนัดทั้งข้างในและข้างนอก คนเป็นจำนวนมากได้ขอรับการประทับจิตเข้าสู่ธรรมวิถีกวนอิมหรือวิถีสะดวกในคืนนั้น และครอบครัวกวนอิมสาขาญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็กก็ได้เติบโตขึ้น
 
 

จุดที่ 15 ฮ่องกง

 

ตามคำกล่าวของเพื่อนประทับจิตซึ่งได้เข้าร่วมในกลุ่มทำงานได้กล่าวว่า “ก่อนนั้นพวกเราหมกมุ่นอยู่กับธุรกิจของพวกเราเอง อย่างไรก็ตาม เพื่อการแสดงธรรมอันศักดิ์สิทธิ์และสูงส่ง และโอกาสที่จะได้พบท่านอาจารย์ พวกเราก็ได้รวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน พวกเราได้สนับสนุนท่านอาจารย์เต็มที่ และทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของสรรพสัตว์ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพลังอันไม่อาจสัมผัสได้ของท่านอาจารย์ได้อยู่กับพวกเรา ให้พรพวกเราขณะที่เราทำงาน

 
 

พวกเราทุกคนรู้สึกมีความสุขในบรรยากาศที่อบอุ่น แม้กระทั่งในขณะนี้เมื่อฉันหวนระลึกไปถึงเวลาเหล่านั้น ฉันก็ยังรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่น่ายินดีและอิ่มเอิบ ซึ่งพวกเราได้ทำงานอย่างกระฉับกระเฉงและอุทิศตน นั่นเป็นของขวัญที่เยี่ยมยอดที่ท่านอาจารย์ได้ให้แก่เพื่อนประทับจิตชาวฮ่องกงทุกคน”

ผู้ฟังในเกาะฮ่องกงประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลายชาติและกลุ่มทางด้านจิตวิญญาณต่างๆ พวกเขาตอบรับการแสดงธรรมอย่างกระตือรือร้นและได้ถามคำถามมากมาย

 
 

จุดที่ 16 กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย

 

การแสดงธรรมถูกจัดขึ้นที่วัดซึ่งมีลักษณะแบบจีน ชื่อ “พระราชวังแห่งเทพธิดาสรวงสวรรค์” ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพราะเหตุที่วัดแห่งนี้อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวจึงมีผู้มาเยี่ยมชมมากมาย คนเป็นจำนวนมากได้ขอประทับจิตแม้ก่อนที่การแสดงธรรมจะได้เริ่มต้นเสียอีก ดวงวิญญาณอันหิวกระหายของพวกเขาเหมือนพืชผลที่กำลังรอฝนหลังจากภัยแล้งอันยาวนาน ช่างบังเอิญเสียเหลือเกินที่เป็นเวลา 2 คืนในยามเที่ยงคืนหลังการแสดงธรรมได้มีฝนกระหน่ำอย่างฉับพลัน ตามรายงานข่าวมันได้ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 20 ปีในมาเลเซีย แต่ฝนก็ได้หยุดลงในเช้าวันรุ่งขึ้น น้ำได้ลดลงอย่างรวดเร็ว สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ พระอาทิตย์ได้ฉายแสงอย่างสุกสว่างในวันก่อนการแสดงธรรม และฝนเที่ยงคืนซึ่งกินเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ได้หยุดลงด้วยเช่นกัน เพื่อหลีกทางให้กับวันทีท้องฟ้าสดใสอีกวันหนึ่ง มันคล้ายกับว่าท่านอาจารย์ได้หล่อเลี้ยงประเทศด้วยน้ำอมฤต ชำระล้างประเทศในลักษณะที่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรักที่สุด

 
 

จุดที่ 17 กรุงเทพฯ ประเทศไทย

 
 

ตามประเพณีแล้ว ประเทศไทยเป็นประเทศพุทธและได้สงวนรักษาระบบกษัตริย์ที่มีมาแต่โบราณ วันแสดงธรรมท่านอาจารย์ปรากฏกาย ณ หอประชุมแสดงธรรมในชุดแต่งกายประจำชาติสีเหลืองทองที่สวยงดงาม ซึ่งได้สร้างความตะลึกงันให้กับผู้ฟัง ลักษณะอันงดงามน่าทึ่งของท่านไม่ได้เป็นเพียงแค่พระพรอันยิ่งใหญ่สำหรับประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการทำลายความคิดเก่าๆ ตามประเพณีไทยที่ว่า ผู้บำเพ็ญทางจิตวิญญาณจะต้องบำเพ็ญทุกขกิริยา หลังจากการบรรยายธรรมจบลงแล้วคนเป็นจำนวนมากได้ถามเพื่อนประทับจิตของเราว่า “ทำไมคนที่แต่งตัวสวยสดงดงามจึงสามารถสอนได้ดีเช่นนี้?” นี่เป็นเพียงแค่หนึ่งในวิธีการมากมายที่ท่านอาจารย์ใช้ในการสอนสรรพสัตว์ ให้รู้จักเลิกยึดติดกับความเคยชินและความคิดเก่าๆ ปัญญาอันยิ่งใหญ่ของท่านได้ตีฝ่ากรอบของความคิดที่เคยชินและความคิดเก่าๆ ของคนทั่วๆ ไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การก้าวข้ามความคิดในลักษณะเช่นนี้นับได้ว่าเป็นการยกระดับอย่างมากและเป็นการตีฝ่ากรอบความคิดสำหรับคนไทย

 

เมื่อการแสดงธรรมและการประทับจิตได้จบลง ท่านอาจารย์และเพื่อนประทับจิตของเราก็รู้สึกโล่งอกอย่างมาก ในระหว่างสมาธิกลุ่มท่านอาจารย์ได้บอกพวกเราอย่างมีความสุขว่า การเดินทางบรรยายธรรมทั่วโลกประสบความสำเร็จ พวกเราได้หว่านเมล็ดพันธ์แห่งจิตวิญญาณมากมายทั่วโลก หลังจากนั่งสมาธิกลุ่มเสร็จแล้วท่านอาจารย์ได้พาพวกเราไปแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามราตรีอันงดงาม พวกเราพูดคุย เล่นและร้องเพลงด้วยความสนุกสนานเต็มที่ ในขณะที่ดื่มด่ำกับการที่มีท่านอาจารย์อยู่ด้วย

 
 

บทสรุป

 

ในช่วงระยะเวลา 100 วัน ของการแสดงธรรมทั่วโลก เราได้แจกจ่ายหนังสือตัวอย่างฟรี ใบปลิว และโปสเตอร์เป็นจำนวนมาก หนังสือพิมพ์เป็นจำนวนมากได้ลงภาพของท่านอาจารย์และรายงานเกี่ยวกับคำสอนของท่านในภาษาต่างๆ มากมาย สถานีโทรทัศน์และวิทยุได้ออกอากาศข่าวเกี่ยวกับกิจกรรมและคำสอนของท่าน ด้วยความรุ่งโรจน์อันไร้พรมแดนของพระเจ้า ป้ายบอกทางของการรู้แจ้งได้ตั้งขึ้นในหลายเมืองและหลายประเทศทั่วโลก จุดแสงส่องทางแก่ลูกแกะหลงทางนับไม่ถ้วน พาพวกเขาไปยังท่านอาจารย์และกลับไปสู่อาณาจักรแห่งแสงอนันตกาล

พวกเราที่ได้รับสิทธิพิเศษในการติดตามท่านไปในการเดินทางเพื่อช่วยงานมากมายสำหรับการแสดงธรรมให้กับผู้คนนับพันในเมืองต่างๆ ประเทศต่างๆ โดยไม่มีการหยุดพักระหว่างการบรรยายธรรมที่แน่นขนัดก็ได้ แต่มองท่านอาจารย์ด้วยความตะลึงงัน บุคคลตัวเล็กๆ ผู้นี้ที่มีร่างกายอันบอบบาง ในขณะเดียวกันก็มีพลังและความทรหดอันเหลือเชื่อ ได้คงไว้ซึ่งก้าวย่างที่เป็นพิเศษซึ่งเรายากที่จะตามได้ทัน ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า มีเพียงผู้ที่ได้ติดต่อกับแหล่งพลังแห่งจักรวาลเท่านั้นที่สามารถทนความยากลำบากทางกายและเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น จากการเดินทางครั้งนี้ได้อย่างสำเร็จงดงาม ท่านอาจารย์ได้กล่าวว่า “เมื่อฉันสอนธรรมวิถี ร่างกายของฉันไม่ได้พูด แต่มันเป็นพลังพุทธะ พลังพระเจ้า หรือพลังอาจารย์ที่อยู่ภายใน”

ในบรรดาผู้ที่โชคดีพอที่ได้รับพระพรของพระเจ้าในช่วงเวลานั้น บางคนก็รู้แจ้งทันทีและประทับจิตเข้าสู่ธรรมวิถีกวนอิม คนอื่นๆ ค่อยๆ รู้แจ้งและประทับจิตต่อมาในภายหลัง ทุกคนในบรรดาคนเหล่านี้ได้เลือกที่จะเข้าสู่ยุคทองของเขาเอง แม้ว่ามีบางคนที่ไม่ได้ประทับจิต แต่เมล็ดพันธ์ก็ได้ถูกหว่านลงไปอย่างลึกภายในหัวใจของพวกเขา และชีวิตของพวกเขาก็ได้ถูกพะเจ้าทำเครื่องหมายเอาไว้แล้วอย่างถาวร

การแสดงธรรมทั่วโลกในปี 2536 ได้ก่อให้เกิดการยกระดับจิตวิญญาณของโลกและความเจริญของโลกอย่างเหลือคณานับ เมื่อนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ได้ตั้งปณิธานด้วยความเมตตา ผู้ที่มีบุญสัมพันธ์กับท่านก็จะได้เห็นแสงแห่งการหลุดพ้น กระแสทางด้านจิตวิญญาณซึ่งได้ถูกกระตุ้นให้เคลื่อนไหวจะคงอยู่ต่อไปอีกยาวนาน และไหลไปอย่างรวดเร็วต่อทั่วโลก