ถ:
การยอมรับและทำความเข้าใจในความหมายที่แท้จริงของศาสนา ท่านทำการอธิบายเพิ่มเติมได้หรือไม่?
อ:
สมมุติท่านออกไปรับประทานอาหารในภัตตาคาร
และท่านทราบอย่างดีว่าอาหารร้านนี้อร่อยหรือไม่
ถ้าหากท่านกล่าวกับใครบางคนซึ่งกำลังอ่านรายการอาหารอยู่นอกร้านว่าน้ำซุปอร่อยเพียงใด
และผัดผักรวมรสดีขนาดไหน
และว่าท่านจะต้องกลับมาที่ภัตตาคารนี้อีกอย่างแน่นอน
เขาจะเข้าใจสิ่งที่ท่านกล่าวหรือไม่? ก็น่าจะไม่
นี่คือปัญหา ทุก ๆ คนพูดเกี่ยวกับพระเจ้าและเทิดทูนพระองค์
แต่มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถติดต่อและคุยกับพระองค์ได้
หรือถามคำถามพระองค์ได้ บัดนี้พวกเราสามารถทำเช่นนั้นได้
เพราะพวกเราได้ระลึกตัวตนเดิมแท้ของเรา
เรามิใช่ร่างกายมนุษย์ธรรมดานี้
เรามีตัวตนมาก่อนที่จะกลายมาเป็นกายเนื้อนี้
และเราก็จะมีตัวตนต่อไปหลังจากที่ออกจากร่างกายนี้ไปแล้ว
นั่นคือตัวตนเดิมแท้ของเรา
เราได้สร้างการติดต่อและความสัมพันธ์กับตัวตนเดิมแท้นี้
ซึ่งเราเรียกว่า พระเจ้าภายใน หรือ
ธรรมชาติพุทธะภายใน
ดังนั้นเราจึงตระหนักว่า
พระเจ้ารักและปกป้องเราอย่างไร สอนเราทุก ๆ วัน และช่วยเราแก้ปัญหาอย่างไร
และพัฒนาความเมตตากรุณาของเราอย่างไร
เราสามารถปรึกษาพระองค์ได้เมื่อเรามีปัญหา บุคคลที่อ่านรายการอาหารอยู่ภายนอก
เชิดชูพระเจ้าอยู่ตลอดเวลา แต่เขาไม่เคยพูดกับพระองค์ ดังนั้น แน่นอน
จึงเป็นการยากที่เขาจะเข้าใจคำบรรยายของเรา ก่อนที่เขาจะได้ลิ้มชิมรสอาหาร
มันเป็นการยากสำหรับเราที่จะพิสูจน์ให้เขาว่า อาหารอร่อยเพียงใด
ฉันอาจจะไม่รอบรู้เท่าท่านศาสตราจารย์ เพียงสามารถกล่าวคำง่าย ๆ
เพราะ เรากลายเป็นหนึ่งกับพระเจ้า
อย่างไรนั้นไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
ในระหว่างเวลาถ่ายทอด เรา 2 คนเพียงนั่งในความเงียบ
ในขณะที่การถ่ายทอดถูกกระทำจากจิตสู่จิต พระเจ้าคุยกับพระเจ้าภายในเรา
และไร้ที่สำหรับคำพูด เราพูดจริงก่อนนั้น แต่เพียงจะบอกเธอว่า
เธอควรนั่งอย่างไร ว่ามันไม่สำคัญว่า
เธอนั่งขัดสมาธิหรือไม่ในขณะอยู่ในการทำสมาธิ
และวิธีผ่อนคลายและว่าจะรวบรวมความคิดของเธอไว้ที่ไหน
ดังนั้นเธอจึงเห็นพระเจ้าและสื่อสารกับพระองค์ได้
เหล่านี้เป็นเพียงคำสอนทางวาจา ต่อมา เมื่อการประทับจิตจริงเกิดขึ้น
ไม่มีใครพูดสักคำ เช่นนี้คือการประทับจิต การถ่ายทอดจิตสู่จิต และ
การถ่ายทอดเหนือคำสอน
มันถูกเรียกว่าเช่นนั้นเพราะมันไม่สามารถพบได้ในคำสอน
เรามีพระเจ้าและพุทธะภายในเราจากตอนแรกทีเดียว
ดังนั้นใครมีสิทธิ์สอนพุทธะหรือพระเจ้าว่าจะทำอะไร?
มันเป็นไปได้เฉพาะหลังจากตัวตนเดิมของเราตื่น
นี่เหมือนเอาเทียน 2 เล่ม
เล่มหนึ่งจุดแล้ว พอเราแตะเทียนอีกเล่มหนึ่งกับเล่มนี้
มันก็เป็นประกายแจ่มใสด้วย คุณภาพของแสงแฝงอยู่เดิมในเทียน
มันเพียงต้องการใครคนหนึ่งจุดมัน วิธีปฏิบัตินี้ไม่ต้องการคำพูดหรือคำสอน
ไม่สำคัญว่าเธอพูดเกี่ยวกับมันหรือขอมันนับร้อยปีอย่างไรก็ตาม
มันยังจะไม่เป็นประกายแจ่มใส |