เจตจำนงอิสระกับเจตจำนงของพระเจ้า

 
ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ฌานนานาชาติ 3 วัน ณ ลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
วันที่ 18 ธันวาคม 2541 (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ) วิดิทัศน์ # 642
 

:  เนื่องจากพระเจ้ามอบเจตจำนงอิสระให้กับเรา และเราทำอะไรก็ได้ แม้กระทั่งเปลี่ยนดวงชะตาของเรา แล้วเราจะนำพาเจตจำนงของเราให้ไปในทางเดียวกับของพระเจ้าได้อย่างไร และทราบได้อย่างไรว่า เราได้ทำตามเจตจำนงของพระเจ้าแล้ว?

:  เธอทำได้ 2 อย่าง ทำตามเจตจำนงของเธอ หรือทำตามเจตจำนงของพระเจ้า  การทำตามเจตจำนงของเธอคือดังนี้ ถ้าเธอไม่ชอบสิ่งนั้นหรือสิ่งนี้ เธอก็เปลี่ยนมันไปเสีย เธอมีสิทธิที่จะทำตามความพอใจของตนเองได้ ถ้าเธอไม่ชอบสิ่งนั้นหรือสิ่งนี้ ก็เปลี่ยนมันเสีย

การกระทำตามเจตจำนงของพระเจ้าคือ "เอาละ ฉันไม่สนใจ อะไรเข้ามาหาฉันๆ ก็จะทำไป"  และพระเจ้าก็จะดูแลสิ่งที่เหลือ หากเธอเข้มแข้งพอเธอก็ทำอย่างนั้นไป ไม่ว่าอะไรเข้ามาหาเธอๆ ก็ดูแลอย่างดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ที่เหลือนั้นขึ้นอยู่กับพระองค์ แต่ถ้าเธอยังไม่เข้มแข็งพอก็ให้เธอทำตามเจตจำนงของเธอไป  อะไรที่เธอไม่ชอบก็ให้เปลี่ยนเสียแล้วก็หวังว่าพระเจ้าจะให้ความร่วมมือ พระองค์ให้ความร่วมมือเสมอ

แต่อัตตาอาจเข้ามาขวางเจตจำนงของเราได้หรือไม่?

: ไม่ได้ หากเธอไม่มีอัตตาอีกต่อไป เธอจะไม่ใส่ใจเรื่องเจตจำนงอิสระเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น ถ้าไม่มีอัตตา ไม่มีเจตจำนงของตัวเรา เมื่อนั้น ก็จะมีแต่เจตจำนงของพระเจ้า อย่างไรก็ดี เราจะค่อยๆ ก้าวไปทีละก้าวๆ ไม่มีความจำเป็นใดทีจะต้องกระโดดพรวดลงไปในเจตจำนงของพระเจ้าหากเธอยังไม่พร้อม พระองค์ใจเย็นมาก เธอต้องการอะไรพระองค์ก็ต้องการเช่นนั้น  แต่สิ่งที่พระองค์ต้องการนั้นมิใช่สิ่งที่เธอต้องการเสมอไป  ดังนั้น มันมีเจตจำนงอิสระอยู่และก็มีเจตจำนงของพระเจ้าให้เธอเลือกเอา

: ฉันจะทำให้เจตจำนงของฉันสอดคล้องกับของพระเจ้าและจะยินยอมต่อเจตจำนงของพระเจ้าได้อย่างไร? เพราะฉันทราบว่าเจตจำนงของพระองค์ดีที่สุดสำหรับฉัน

: ก็ไม่ต้องทำอะไร เธอทำได้ไหม? เธอไม่ทำอะไรเลยได้ไหม?

:  เพียงแค่อยู่ไปอย่างนั้นหรือ?

:  ใช่แล้ว ! ฉันไม่ได้หมายความว่าให้นั่งอยู่อย่างนั้นทั้งวัน แต่หมายความว่าให้ทำอะไรก็ตามที่เข้ามาหา  หากเธอทำงานประเภทหนึ่งอยู่ก็ให้ทำไป  หากมีใครขอให้เธอทำอย่างนั้นก็ทำไป  หากไม่มีใครมาขอให้เธอทำอะไรก็ไม่ต้องทำอะไร  ทำแต่สิ่งที่เธอทราบว่าเข้ามาหาเธอ เจตจำนงของพระเจ้าก็คือเช่นนั้น หากเธอพอใจกับตรงนั้นได้ก็นับว่าดี หากเธอทำไม่ได้เธอก็เปลี่ยนได้

: ขอบคุณที่อธิบายง่ายเช่นนี้ ท่านอธิบายเข้าใจง่ายมาก

: ใช่แล้ว คือว่าฉันเรียนมาอย่างนั้น (ผู้ฟังปรบมือ)  ด้วยเหตุนี้ เมื่อวานฉันจึงกล่าวกับพี่น้องบางคนของเธอว่า "ก็แค่ไม่ต้องทำอะไร" ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะนั่งอยู่ตรงนั้นแล้วจินตนาการว่ากำลังส่งความรักหรือความเมตตาของพระเจ้าไปทั่วทุกทิศทาง  จินตนาการนั่น จินตนาการนี่ ก็แค่ให้นั่งอยู่ตรงนั้น แล้วพระเจ้าก็จะส่งสิ่งต่างๆ มาให้กับเธอ  แต่พระองค์ก็ยังกล่าวไว้ด้วยว่า "จงเคาะ แล้วจะมอบให้" นั่นคือเจตจำนงอิสระ ฉันไม่ได้ใส่ใจจะเคาะแล้วด้วยซ้ำไป หากพระองค์ไม่มอบให้กับฉันๆ ก็จะบอกว่า "โอเค เก็บไว้ก็แล้วกัน"  ฉันจะไม่ขอด้วยซ้ำไป และหากพระองค์ไม่ให้ ฉันก็จะบอกว่า "ไม่เป็นไร!  ฉันคงไม่จำเป็นต้องใช้มัน"  แบบนี้จะง่ายกว่า

สิ่งที่เธอต้องทำ ก็มีเพียงแต่ดูแลร่างกายนี้ ทำงานให้พอที่จะมีชีวิตรอดหรือที่จะลงทุน  หรืออะไรก็ตามแต่เพียงทำสิ่งที่เอทำอยู่ จะเป็นการดิ้นรนน้อยกว่าและสงบสุขกว่า  อีเมอร์สัน นักปรัชญาชาวอเมริกาได้กล่าวไว้ว่า "ภาระอันหนักอึ้งจะถูกปลดไปจากบ่าของเธอ ถ้าเธอปล่อยให้พระเจ้าจัดการกับจักรวาล" ฉันดำเนินชีวิตตามแนวคิดนี้