ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่  ฌาณนานาชาติ 3 วัน ลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
16 ธันวาคม 2541(ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

: คำถามนี้ได้จับประเด็นบางอย่างซึ่งท่านได้เอ่ยก่อนหน้านี้แล้วเกี่ยวกับว่า พลังงานทางเพศก่อให้เกิดปัญหา ขอให้ท่านช่วยอธิบายว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และเราควรจะจัดการกับมันอย่างไร?

: มันเกิดขึ้นได้อย่างไรหรือ? ฉันจะต้องอธิบายเรื่องนี้ด้วยหรือ? (เสียงหัวเราะ) ฉันคิดว่าเธอควรซื้อหนังสือประเภท "กามสูตร" หรืออะไรทำนองนั้นมาอ่าน มันอธิบายไว้ดีกว่าที่ฉันจะพึงอธิบายได้นะ (เสียงหัวเราะ)

มีพลังงานมากมายหลายประเภทในระดับที่แตกต่างกันซึ่งเรามีอยู่ พลังงานทางเพศคล้ายคลึงกับปีติซึ่งเกิดขึ้นกับเราระหว่างมีสมาธิมากที่สุด บางคนเข้าสูสมาธิและประสบกับปีติมาแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงสามารถควบคุมพลังงานทางเพศได้ ผู้คนส่วนใหญ่เมื่อเขายังไม่ขึ้นมาสู่ระดับนี้นั้น และพวกเขาประสบกับพลังงานทางเพศมันจะรู้สึกดีมากจนกระทำให้พวกเขาเสียสมดุลไป เซลล์ในร่างกายของพวกเขาจะมีปฏิกิริยาที่ออกจะแตกต่างออกไป คล้ายกันกับหลังจากที่ได้ประทับจิตหรือเมื่อเธอออกจากสมาธิ ร่างกายของเธอจะรู้สึกแปลกๆ ในบางครั้ง สั่นๆ หรืออะไรบางอย่างมันก็เป็นเช่นนั้น

นั่นคือสาเหตุที่เมื่อผู้คนมีความรักมันก็คล้ายกับว่ากำลังเดินอยู่บนก้อนเมฆ และพวกเขาจะเพี้ยนๆ ในบางครั้ง เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของการมีปฏิกิริยาเคมีอย่างกะทันหัน แล้วผลข้างเคียงของมันก็จะทำให้จิตใจเสียสมดุลไป พวกเขากลายเป็นมีความสุขมากเกินไปหรือตื่นเต้นเกินเหตุโดยไม่มีเหตุผล แล้วพวกเขาจะไม่มีเหตุผลกับตัวเองหรือกับคู่ของเขาอีกต่อไป

นั่นคือสาเหตุที่คนในสมัยก่อนแนะนำว่า เธอไม่ควรจะทำอะไรกันจนกว่าเธอจะแต่งงาน ไม่เพียงเพราะความคิดอันล้าสมัยที่ให้รักษาพรหมจรรย์และอะไรทำนองนั้น แต่เพียงเพื่อให้เธอทั้งสองมีเวลาคุ้นเคยกับปฏิกิริยาทางเคมีของกันและกัน และเมื่อท้ายที่สุดเธอได้ประสบความรู้สึกสุดยอดที่ศูนย์กลางความเพลิดเพลิน เธอก็จะไม่เสียสมดุลของเธอไป เธอสามารถเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ และเจริญความสัมพันธ์ต่อกันได้มากเท่ากับตอนก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์กัน

ถ้าเธอมีเพศสัมพันธ์กันเร็วเกินไป จิตใจของเธอจะไม่มีเวลาที่จะซึมซับและรู้จักกันและกัน และองค์ประกอบทางเคมีของร่างกายและเซลล์ต่างๆ มิเคยได้รับการฝึกฝนที่จะอยู่กับอีกผู้หนึ่งซึ่งมีองค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่างกัน  และมีระบบดีเอ็นเอ และอื่นๆ เหล่านั้นที่แตกต่างกัน ดังนั้น เมื่อเธอสัมผัสกันอย่างลึกซึ้งเร็วเกินไป พลังงานทางเพศเหมือนกับระเบิดที่ทำให้เธอทั้งคู่เสียความสมดุลไป นั่นคือเหตุผลที่คนพูดกันว่าถ้าเธอมีเพศสัมพันธ์เร็วเกินไป ชีวิตแต่งงานของเธอจะไม่ค่อยดีนัก

มันไม่ใช่ว่าเรื่องเพศสัมพันธ์นั้นเป็นบาปหรืออะไรทั้งสิ้น มันเป็นเพียงว่าร่างกายของเธอไม่คุ้นเคยกับมัน  จิตใจของเธอไม่คุ้นเคยกับมัน ร่างกายที่เป็นจิตวิญญาณของเธอไม่ได้รับการโปรแกรมให้มีเพศสัมพันธ์ที่รวดเร็วอย่างนั้น เมื่อพลังงานเต็มเปี่ยมของคน 2 คนมาพบกันเข้า มันก็เหมือนลูกระเบิด ดังนั้น ไม่มีอะไรเลวร้าย มันเป็นเพียงวิธีที่เธอจัดการกับมัน

สำหรับคนส่วนใหญ่ เมื่อเธอยังไม่มีความรู้แจ้งเพื่อจะนำมาใช้ในเรื่องนี้ได้ด้วย และเมื่อสังคมล้วนแต่บอกเธอว่าเซ็กส์นั้นเป็นบาปซ้ำเข้าไปอีก  เมื่อนั้นในทางจิตวิทยาทางกายภาพ ทางจิตใจ และทางอารมณ์ เธอจะรู้สึกผิด นั่นเป็นสิ่งที่แย่ต่อความสัมพันธ์ของเธอ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ล้มเหลว ผู้คนในสังคมประณามเซ็กส์มากเกินไป  และในทางกลับกัน พวกเขาไม่ได้อธิบายหรือปลูกฝังให้คนยอมรับว่าเซ็กส์เป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ ลำพังแค่ผลกระทบทางจิตวิทยาจากทางสังคม จากมาตรฐานทางศีลธรรม เธอก็จะรู้สึกผิดและเสียศูนย์ไปเรียบร้อยแล้ว นั่นคือสาเหตุที่เธอดิ้นรนอยู่ภายในตนเอง  เธอไม่สามารถรับมือกับมันได้ รวมทั้งพลังงานทางเพศก็รุนแรงมากอีกด้วย มันเกือบจะเหมือนกับสมาธิ สำหรับปุถุชนธรรมดาแล้ว มันมากเกินไปสำหรับพวกเขา

: ถ้าเช่นนั้นเราควรจะจัดการกับมันอย่างไร ถ้าดูเหมือนกับมันมากเกินไปสำหรับพวกเรา?

: เธอจะต้องเข้าใจธรรมชาติของพลังทางเพศ แต่การเข้าใจก็เป็นเรื่องหนึ่ง และการยอมรับมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเราได้รับการล้างสมองมาเป็นพันๆ ปีว่าเซ็กส์เป็นสิ่งไม่ดี  ฉันไม่สามารถกระทั่งเปลี่ยนแปลงมันด้วยซ้ำ ถ้าฉันออกไปข้างนอกและเทศนากับทุกๆ คนว่าเซ็กส์นั้นดี เซ็กส์นั้นโอเค พวกเขาก็คงจะฆ่าฉันเสีย (เสียงหัวเราะ)  ดังนั้น ทั้งหมดที่ฉันทำได้ก็คือบอกให้เธอปล่อยตามสบาย ลดมันลง ค่อยเป็นค่อยไป ถ้าเธอทำได้ ถ้าเธอต้องการเช่นนั้นและถ้าทำให้เธอรู้สึกดี ถ้าเธอไม่สามารถจัดการมันได้ อย่างนั้นวิธีเดียวคือลดมันลงหรือตัดมันออกไปจนกระทั่งเธอเข้มแข็งเพียงพอ และสามารถตัดสินได้ว่าจะทำเช่นใด  และถ้าหากเธอต้องการจะเล่นกับไฟ เธอก็จะต้องรับผลของมันด้วย ถึงแม้ว่าฉันนั่งอยู่ที่นี่และบอกเธอว่าเซ็กส์ไม่เป็นบาป มันเป็นเรื่องที่โอเค เธอก็จะยังไม่สามารถยอมรับมันได้ ถึงแม้ว่าเธอจะไว้ใจฉัน  จิตใจของเธอจะไม่สามารถยอมรับมันได้ในเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้

: ขอบคุณท่านอาจารย์

: ไม่เป็นไร เห็นไหม ไม่มีอะไรที่เลวร้ายอย่างแท้จริง มันเป็นเพียงวิธีที่เราถูกโปรแกรมเอาไว้ ตัวอย่างเช่น ถ้าฉันบอกเธอว่า "จงอย่าเล่นกันพนัน" พวกเธอจำนวนมากคงสงสัยว่า "ทำไมล่ะ? มันไม่มีพิษภัย เธอเพียงเล่นให้กระดาษ 2-3 ใบ และพนันสัก 1-2 ดอลลาร์ มันจะมีพิษภัยอะไรได้?"  มันไม่มีพิษภัยแต่มีผลข้างเคียง บางครั้งเธอแพ้ เธออาจจะกลายเป็นผู้แพ้ที่ไม่ดี หรืออีกผู้หนึ่งแพ้ แล้วเขากลายเป็นผู้แพ้ที่ไม่ดี และนี่จะก่อให้เกิดพลังงานที่ไม่ดีระหว่างกันและกัน เธออาจจะเสียเพื่อนไปคนหนึ่ง และเกลียดชังซึ่งกันและกัน และสิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดพลังงานที่ไม่ดี  พลังงานทางลบซึ่งเธอจะต้องแบกรับ เธอจะรู้สึกอึดอัดใจ จะรู้สึกถูกกดดัน และถ้าเกิดกรณีที่แย่ที่สุด เธอจะติดเมื่อเธอชนะ ถ้าเธอแพ้เธอก็ต้องการแก้มือใหม่  ถ้าเธอชนะเธอจะต้องการเล่นใหม่ไปเรื่อยๆ นั่นคือความคิดมนุษย์ มันจะคอยฝึกฝนและฝึกฝน และหลังจากช่วงเวลาหนึ่งเธอก็จะชินกับการเล่นการพนัน  และเธอจะต้องการมากขึ้นไปอีก เธอจะไปสู่สถานที่เล่นพนันที่ใหญ่กว่า และเธออาจจะสูญเสียมากยิ่งขึ้นไปอีก  เมื่อนั้นเธอจะทำร้ายตัวเอง เธออาจจะสูญเสียงาน สูญเสียครอบครัว เธออาจจะขายภรรยาและลูกๆ ของเธอด้วยซ้ำไปมีบางคนทำเช่นนั้น เห็นไหมนี่คือผลข้างเคียงซึ่งไม่ดี มันมิใช่ว่าการพนันเองเป็นสิ่งไม่ดี

สมมติว่าฉันนั่งอยู่ที่นี่และเล่นการพนันสักหน่อยเธอจะคิดว่าฉันไม่ดีเป็นอย่างยิ่ง หรือผิดบาปหรือไม่? ไม่ใช่ มันอาจไม่เป็นเช่นนั้น  เพราะมันมิได้มีความหมายใดๆ ต่อฉันๆ อาจจะเล่นตลอดทั้งคืน  ฉันอาจจะเล่นตลอดทั้งชีวิตของฉัน และมันก็จะไม่มีความหมายใดๆ ต่อฉัน มันจะไม่มีผลอะไรต่อฉันโดยสิ้นเชิงฉันจะไม่ขายพวกเธอเพื่อทำเงินมากขึ้น แต่สำหรับผู้คนส่วนใหญ่ พวกเขาจัดการกับมันไม่ได้ เช่นเดียวกันกับเพศสัมพันธ์ พวกเขาจัดการกับมันไม่ได้ พวกเขาอ่อนแอเกินไปสำหรับสิ่งซึ่งชวนให้ติดอันมีพลังมากมายเหล่านี้ เช่นเดียวกับบุหรี่ ถ้าเธอสูบ 1 มวน พรุ่งนี้ก็ 2 มวน ต่อมาเธอก็จะสูบทั้งซอง แล้วเมื่อนั้นเธอก็จะเลิกไม่ได้  หรือแอลกอฮอล์ มีตั้งแต่กี่คนที่เริ่มด้วยเพียงแก้วเดียว พวกเขาเริ่มด้วยเพียงแค่นี้ และนั่นคือวิธีที่มันงอกเงยกลายไปเป็นปัญหา นั่นคือสาเหตุที่ฉันบอกว่าจงอยู่ห่างจากสิ่งเหล่านี้ ถึงแม้ว่าฉันไม่ได้ประณามสิ่งใด ฉันทราบว่า วิญญาณได้เลือกหนทางของตนเอง แต่ไม่ว่าเธอได้เลือกอะไร อะไรก็ตามที่เอต้องการจะเลือก เธอจะต้องทราบผลที่เกิดตามมาและเลือกอย่างชาญฉลาด ถ้าหากเธอต้องการกลับบ้านเร็วขึ้น ถ้าเธอตัดสินใจว่า เวลานี้คือเวลาที่เธอต้องการจะกลับบ้านก็จงอยู่ห่างจากสิ่งซึ่งชวนให้ติดเหล่านี้ มันไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่เธอจะต้องเสียไปในทางจิตใจ