ผลของสมาธิ
 
ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ศูนย์ยองดง  เกาหลี

9 พฤษภาคม 2541 (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ) 2

 

เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งที่เธอสะสมไว้ทุกวันจะส่งผลไปอีกนานเป็นพันๆ ปี เพราะเวลาที่เธอเข้าสู่อนันตกาลระหว่างการเข้าสมาธิเวลาได้หยุดลง  มันไม่ใช่เพียง 2 ชั่วโมงครึ่งแต่เป็นพันๆ ปี  ค่อยๆ ก่อร่างและพัฒนาขึ้นอย่างยาวนาน  เธอได้เข้าสู่ห้วงเวลาที่แตกต่างและเขตห้วงอวกาศ  เหมือนได้ไปเติมพลังเข้ามาใหม่และกลับมาเป็นคนใหม่ ดังนั้น เธอไม่จำเป็นต้องกลับมาใหม่ในชาติต่อไปเพื่อมาเป็นคนใหม่หรือมาเป็นตัวเธอเอง  เพราะทุกคนเกิดมาก็ด้วยจุดประสงค์เพียงเพื่อจะได้เรียนรู้ที่จะรู้จักตัวเองอีกครั้งเท่านั้นเอง  ถ้าเราไม่ทำในชาตินี้เราก็ต้องมาทำในชาติหน้าและชาติต่อๆ ไป  ดังนั้น ถ้าเรามีเวลาตอนนี้ 2 ชั่วโมงครึ่ง เราทำมันทุกวัน  นั่นหมายถึงเราได้ทำเผื่อไว้สำหรับอีกเป็นล้านๆ ปี ทุกๆ ครั้งๆ ที่นั่งสมาธิอย่าคิดว่ามันมีค่าเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง และอย่าคิดว่ามันมากเกินไป แต่ละนาทีมีค่าเหมือนชั่วชีวิต เพราะในอนันตกาลไม่มีคำว่า 2 ชั่วโมงครึ่งหรือ 1 นาที  มันคืออนันตกาลไม่รู้จบ  เรายังต้องนับเวลาเพราะเมื่อเรายังติดอยู่ในกรอบของเวลาเราต้องรู้จักมัน  เมื่อใดเราหลุดออกมาได้เมื่อนั้นไม่มีคำว่าเวลา

 

เวลาที่ใช้ไปกับการทำสมาธิช่างมีค่ามากเหลือเกิน มีค่าเป็นร้อยเป็นพันของการก่อร่างอันไม่รู้จบที่มาอัดแน่นไว้ด้วยกัน  เหมือนกับชิพที่อัดแน่นในเครื่องคอมพิวเตอร์  แต่ละชิพเล็กๆ จะประกอบไปด้วยจำนวนพันหรือบางทีเป็นล้านของจำนวนข้อมูล  ดังนั้นมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลา ไม่ใช่เรื่องของตัวเลขที่เราคุ้นเคย  เวลาสำหรับสมาธิเป็นเวลาและช่องว่างที่แตกต่างอย่างสมบูรณ์  ดังนั้น ยิ่งเธอได้เข้าสู่ห้วงที่ไร้เวลานี้ หรือช่องว่างที่ไม่ใช่ช่องว่างนี้ (อาจารย์หัวเราะ)  ก็ยิ่งเป็นเรื่องดีมากขึ้นสำหรับเธอ  ยิ่งเธอรู้จักตัวเองมากขึ้น เธอยิ่งเป็นอิสระมากขึ้น