บทสัมภาษณ์พิเศษดาราภาพยนตร์หญิงชื่อดังแห่งประเทศเยอรมัน

คุณไฮเดมารี เวนท์เซล

(ต้นฉบับเป็นภาษาเยอรมัน)

 

คุณไฮเดมารี เวนท์เซล เป็นดาราโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักทั่วไปของหมู่ชน การแสดงที่เข้ากับบทบาทได้อย่างชำนาญของเธอ ทำให้สามารถแสดงออกถึงบทบาทในละครได้ทุกขั้นตอน ทำให้ผู้ชมมีความทรงจำในหลายปีที่ผ่านมาและรำลึกถึงเธออยู่เสมอ ไฮเดมารี ก้าวสู่วงการภาพยนตร์แห่งเยอรมัน เมื่ออายุ 20 ปี เนื่องจากบทบาทการแสดงยอดเยี่ยม ทั้งยังมีหน้าตาสวยงามมาก ดังนั้น ละครยาวหลายเรื่องที่เธอนำแสดงนั้น ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวงการภาพยนตร์โทรทัศน์ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ไฮเดมารี จะเป็นนางเอกบทละครโทรทัศน์เสมอมา เรื่องที่ประสบความสำเร็จมีจำนวนมากมายและเป็นผู้ที่หนังสือ"รวมศิลปินดาราภาพยนตร์เยอรมัน" ชอบรายงานมากที่สุดคนหนึ่ง ขณะนี้ไฮเดมารีจะมาเล่าถึงชีวิตการแสดงของเธอให้ฟัง พร้อมทั้งการมารู้จักท่านอาจารย์ชิงไห่ด้วย

ถาม: ขอเรียนถามว่า ทำไมคุณจึงคิดที่จะเป็นนักแสดง?

ตอบ: คำถามนี้ตอบยาก อาจเป็นเพราะกรรมลิขิตที่ต้องเกิดมาเป็นนักแสดง ตัวเองเป็นชาวยุโรป จึงเคยชินกับการค้นหาคำตอบที่สมเหตุสมผลของทุกๆ เรื่อง แต่การเป็นนักแสดงไม่ได้เป็นเพราะสาเหตุภายนอก แต่มันเกิดจากความรู้สึกที่อยู่ภายในลึกๆ เพราะข้าพเจ้าคิดที่จะมอบบทกวีกับบทแสดงที่ข้าพเจ้าชอบมากให้กับท่านผู้ชม เมื่อเยาว์วัยข้าพเจ้าก็ชอบนักอักษรศาสตร์ชิลเล่อร์ (นักกวีและผู้ประพันธ์บทละครชาวเยอรมัน) โดยเฉพาะเมื่ออายุได้ 13 ปี ข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปงานรำลึกการจากไปครบ 200 ปีของท่านชิลเลอร์ ที่ห้องประชุมโรงเรียนและเป็นผู้อ่านบทกวีของท่าน ส่วนของบทกวีมีความหมายเกี่ยวกับจิตวิญญาณมาก

แม้ขณะนั้นข้าพเจ้ายังไม่ค่อยเข้าใจถึงความหมายของบทกวีนัก แต่อาศัยความรู้สึกในขณะนั้น สามารถนำพาผู้ฟังเข้าสู่จินตนาการของบทกวีได้ ผลปรากฏในงานนั้นเงียบสงบ บรรยากาศเคร่งขรึม เพื่อนนักเรียนฟังแล้วต่างซาบซึ้งกันมาก ข้าพเจ้าจึงได้ทราบว่า ความรักและความจริงจัง สามารถทำให้ผู้คนซาบซึ้งได้และได้รับกำลังใจกับการยอมรับของทุกคน ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจก้าวสู่งานการแสดง แม้ขณะนั้น จะรู้บ้างไม่รู้บ้างเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ก็ตาม แต่ข้าพเจ้าก็ตั้งใจที่จะก้าวไปสู่ทางนี้

ถาม: เมื่อได้ยืนอยู่บนเวทีการแสดงต่อเสียงปรบมือของผู้ชม คุณมีความรู้สึกอย่างไร?

ตอบ: เสียงปรบมือของผู้ชมบอกได้ว่าเป็นการตอบสนองที่อบอุ่นที่สุดสำหรับชาวศิลปิน ไม่ว่าจะอยู่บนเวทีหรือที่กองถ่าย ผู้แสดงจะต้องพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อแสดงออกถึงความรู้สึกของตัวละครให้ได้จริงจังที่สุด ถ่ายอดความทุกข์ที่คร่ำครวญอยู่ภายในของตัวละคนให้เห็นได้ เพื่อให้ผู้ชมสะทกสะท้านไปด้วย ดังนั้น นักแสดงจึงต้องปล่อยวางตัวเองให้ได้ทั้งหมด กำจัดความเหนียมอายซึ่งเป็นอุปสรรคทางจิต จากจุดดังกล่าว การกล่าวชมของผู้ชมจึงเป็นการให้การยอมรับของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย แน่นอน ขณะที่แสดงอยู่นั้น ผู้แสดงสามารถรู้สึกถึงความรู้สึกในการดึงดูดผู้ชมได้หรือไม่ แต่ว่า เมื่อการแสดงจบลง เสียงปรบมือผู้ชมก็ยังคงทำให้ผู้แสดงมีความสุขใจ สำหรับการตอบสนองจากใจจริงนี้ ก็ให้รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง

ถาม: ขอให้คุณเล่าเรื่องที่ได้มารู้จักกับท่านอาจารย์ชิงไห่?

ตอบ: การได้มารู้จักกับท่านอาจารย์ชิงไห่เป็นเรื่องที่โชคดีจริงๆ! เมื่อปี 2539 เป็นบุญสัมพันธ์ครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าได้ไปร่วมงานการพบปะสังสรรค์ที่ศูนย์มิวนิค ข้าพเจ้าได้รู้จักเพื่อนบำเพ็ญที่มีปัญญามากมายที่นั่น และได้ชมวิดีทัศน์ของอาจารย์ ข้าพเจ้ากับสามีแสวงหาเกี่ยวกับจิตวิญญาณมาหลายปี คำสอนที่ได้พบส่วนมากจะไม่มีเกี่ยวกับจิตวิญญาณภายในอย่างแท้จริง มีแต่เปลือกและพิธีการภายนอก ไม่ถูกกับคำบันทึกของคัมภีร์ ทั้งยังเข้าใจยาก ในขณะที่กำลังแสวงหาสัจธรรมอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ก็ได้มาพบกับท่านอาจารย์ ความรู้สึกนั้นเหมือนกับถูกไฟดูดเอา เหมือนกับถูกกรอกสติปัญญาเข้าไปในมันสมอง!

วิดีทัศน์ในขณะนั้น ท่านอาจารย์กำลังกล่าวถึงพระเยซู คำพูดที่ง่ายๆ แต่ลึกซึ้งของท่านอาจารย์ ทำให้ข้าพเจ้าสามารถเข้าใจอย่างง่ายดาย เป็นครั้งแรกที่ความรู้สึกลึกๆ บอกข้าพเจ้าว่า มีเพียงท่านเท่านั้นที่สามารถตอบคำถามจากภายในของข้าพเจ้าได้ ต่อมาข้าพเจ้าโชคดีที่ได้พบท่านอาจารย์และเริ่มวิเคราะห์คำสอนของท่านอย่างจริงจัง และจากการประทับจิต จึงได้รู้จักกับท่านอาจารย์ที่อยู่ภายในตนเอง ความก้าวหน้าในด้านจิตวิญญาณที่ไม่มีวันหยุดนิ่งนั้น ครั้งแรกที่ได้ชมวิดีทัศน์ของท่านอาจารย์ ความรู้สึกในขณะนั้นได้บอกกับข้าพเจ้าว่า ท่านคือผู้ที่ข้าพเจ้าต้องการแสวงหา จะพลาดโอกาสนี้ไม่ได้เป็นอันขาด

ถาม: คุณได้พบกับท่านอาจารย์ชิงไห่ที่ประเทศฝรั่งเศส ขณะนั้นอยู่ที่กรุงปารีสใช่หรือไม่?

ตอบ: ใช่ พบท่านในงานแสดงแฟชั่นโชว์ เสื้อผ้าจากสวรรค์ วันนั้นท่านอาจารย์มีความสนุกสนานมาก พวกเราความจริงมีธุระที่จะต้องจากไปก่อน ท่านอาจารย์ถามพวกเราพวกเราว่าทำไมจึงยืนอยู่ พวกเราตอบว่ากำลังจะไป ท่านอาจารย์กลับบอกว่า "ไม่ต้องรีบร้อน ยังมีเวลาพอ" แล้วท่านก็เข้ามาดอบกอดพวกเราทั้งสี่ไว้ ขณะนั้นข้าพเจ้าตกใจว่า คิดในใจว่า "โอ พระเจ้า! ข้าพเจ้าต้องรีบออกไปให้ได้ ข้าพเจ้าอุ้มพระเจ้าไว้ไม่ได้! มันไม่เป็นการเคารพพระองค์! ท่านอาจารย์ได้ทราบความคิดข้าพเจ้าทันที รีบปล่อยมืออย่างรวดเร็วต่อมาข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจมาก! จากนั้นท่านอาจารย์ก็เอาหน้าผากมาแนบกับหน้าผากข้าพเจ้าทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกวิเศษสุด! ท่านสามารถทราบถึงความต้องการของแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ แล้วให้การตอบสนอง ตามที่พวกเขาต้องการ

หลังจากนั้น พวกเราก็นั่งลงด้วยกันและร่วมร้องเพลงกับท่านอาจารย์เพลงหนึ่ง อาจเป็นเพราะเซลล์แห่งศิลปินของท่านทำให้ข้าพเจ้าซาบซึ้ง ท่านกับข้าพเจ้าต่างมีจุดพิเศษของนักแสดงด้วยกัน ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกมีความใกล้ชิด เราทั้งสองร่วมร้องเพลงพื้นเมืองที่สนุกของเยอรมัน "หมวกของข้าพเจ้ามี 3 เขา" ข้าพเจ้าหัดร้องเพลงนี้ที่เบอร์ลิน ส่วนท่านอาจารย์ไปหัดร้องได้ที่มิวนิค พวกเราทั้งสองจึงรู้สึกมีความสนิทสนมมาก

ถาม:คุณได้เคยกล่าวถึงประสบการณ์ที่เป็นพิเศษทำให้คุณคิดถึงพระเยซู?

ตอบ: มันอยู่ระหว่างงานฌานนานาชาติที่ประเทศแอฟริกาใต้ ท่านอาจารย์เดินเข้ามาในงาน ทุกคนต่างมีความสุขและนั่งปรบมือดังสนั่นอยู่รอบๆ ข้าพเจ้าสังเกตสายตาที่มองเพื่อนบำเพ็ญของท่านอาจารย์เต็มไปด้วยความรัก ความอ่อนโยนมาก ไม่มีความคิดที่เป็นอัตตาใดๆ ทั้งสิ้น ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ในความรักตลอดเวลา ชีวิตการครองเรือนราบรื่น มีลูกๆ ที่น่ารัก พวกเราต่างให้ความรักซึ่งกันและกัน และมีเพื่อนรักมากมาย จนกระทั่งได้เห็นกับตาตนเองที่แววตาอันบริสุทธิ์อย่างธรรมชาติของท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าจึงได้เข้าใจถึงความรักที่แท้จริง มันเป็นความรักที่มิอาจจะหาได้ในโลกนี้ ทันทีข้าพเจ้าก็เข้าใจได้ว่า พระเยซูก็ได้ใช้แววตาที่เมตตานี้ให้ความรักความห่วงใยกับชาวโลก ดังนั้นยิ่งเพิ่มพูนความเลื่อมใสพระเยซูมากขึ้น เป็นเพราะได้ประสบการณ์ที่แสนประเสริฐโดยตรง ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงเชื่อคัมภีร์

 
ถาม: ถ้าคุณมีโอกาสได้พบกับท่านอาจารย์ชิงไห่ คุณคิดจะคุยอะไรกับท่าน?

ตอบ: "ข้าพเจ้ารักท่าน!" นอกจากนี้แล้วยังจะพูดอะไรได้อีก! ข้าพเจ้ารู้สึกว่าข้าพเจ้าเป็นผู้น้อย แต่ก็รู้สึกว่าข้าพเจ้าประเสริฐ รู้สึกเป็นสุขมาก กล่าวได้เพียงคำเดียว "ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้ารักท่าน!"

ถาม: คำพูดอะไรบ้าง ที่คุณคิดจะกล่าวอวยพรกับท่านผู้ชม?

ตอบ: ข้าพเจ้าได้แต่อวยพรท่านที่แสวงหาสัจธรรมทั้งหมด มีคำอยู่คำหนึ่งว่า "เมื่อนักเรียนเตรียมพร้อม ท่านอาจารย์ก็จะมาเอง" หวังว่าผู้ที่แสวงหาเกี่ยวกับจิตวิญญาณและผู้ที่ใคร่ในสัจธรรม ต่างก็โชคดีเหมือนกับข้าพเจ้า สำหรับข้าพเจ้าแล้ว การได้มาพบกับท่านอาจารย์และท่านอาจารย์ยอมรับข้าพเจ้าเป็นลูกศิษย์ มันเป็นพร ที่พระเจ้าประทานมาให้และเป็นบุญกุศลอย่างยิ่ง

 

หมายเหตุ:

คุณไฮเดมารีกับสามี (นายเฮลมุท นิทชเค ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน) ต่างหวนคิดถึงว่า แม้ว่าพวกเขาทั้งสองได้มาพบกับท่านอาจารย์ในขณะที่มีอายุมากแล้ว แต่สามารถได้พบกับมหาอาจารย์ที่ยังมีชีวิตอยู่และบำเพ็ญธรรมวิถีกวนอิม ช่างเป็นเรื่องที่วิเศษสุด โชคดีจริงๆ ดังนั้น เขาทั้งสองจึงตั้งใจศึกษาสัจธรรมที่เต็มไปด้วยปัญญาของท่านอาจารย์ พวกเราขออวยพรให้กับสามีภรรยา เพื่อนแห่งจิตวิญญาณด้วยการบำเพ็ญธรรมวิถีกวนอิมคู่นี้ จงมีชีวิตอยู่กับสรวงสวรรค์ที่สร้างขึ้นมาจากตนเองตลอดไปและจงอยู่กับความรักของพระเจ้าด้วย

รายการโทรทัศน์ "ศิลปะกับจิตวิญญาณ" ตอนที่ 50 ได้บันทึกการสัมภาษณ์ ยินดีต้อนรับสู่เครือข่าย http://137.hichannel.com.tw (ภาษาเยอรมัน)