ภาพวาดของท่านอาจารย์ได้เปลี่ยนความคิด

--ความเชื่อถือของข้าพเจ้าอย่างสิ้นเชิง

เขียนโดยว่าที่เพื่อนบำเพ็ญประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

ข้าพเจ้ากับภรรยา เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เป็นสามีภรรยาที่รักกันมาก เป็นญาติมิตรที่ดี  เป็นครอบครัวที่มีความสุข จนเพื่อนบ้านต่างชื่นชม หลายปีก่อน มีศิษย์ผู้หญิงท่านหนึ่งนำหนังสือของอาจารย์ (กุญแจสู่การรู้แจ้งในทันที) มาให้ ภรรยาอ่านแล้ว ตั้งใจจะบำเพ็ญกับท่าน และอยากให้ข้าพเจ้าบำเพ็ญด้วย ขณะนั้น แม้ว่าจะยอมรับคำสอนบางส่วนของท่านอาจารย์ได้ แต่ข้าพเจ้าเป็นคนวัตถุนิยม ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้ากับจิตวิญญาณว่ามีจริง ทั้งไม่สามารถบำเพ็ญและรับประทานมังสวิรัติได้ ข้าพเจ้าปล่อยวางทางโลกไม่ได้ รู้สึกว่า ถ้ารับประทานมังสวิรัติ ก็จะติดต่อกับญาติมิตรไม่ได้ มันเป็นปัญหาหลักของชีวิต เรื่องนี้ทำให้เราทั้งสองเกิดความขัดแย้งครั้งยิ่งใหญ่ นับตั้งแต่ที่เราทั้งสองได้แต่งงานกันมา

เพื่อเป็นการขัดขวางการประทับจิตของภรรยา ข้าพเจ้าได้คิดหาทางต่างๆ ยอมลงทุนหลายหมื่นหยวน พาเธอไปท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ตามป่าเขาต่างๆ หวังจะให้เธอล้มเลิกความตั้งใจที่จะไปประทับจิต แต่ว่าวิธีการนี้ไม่ประสบความสำเร็จ สุดท้ายเราทั้งสอง จำเป็นต้องยอมออมชอมกัน และตกลงกันว่า - - เธอบำเพ็ญได้เพียงวิถีสะดวกเท่านั้น ดังนั้น เธอจึงพลาดโอกาสประทับจิตครั้งแรกไป คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่เธอบำเพ็ญวิถีสะดวกแล้ว ก็ไม่เพียงพอ กลับอยากประทับจิตมากขึ้นทุกวัน

เมื่อความต้องการมีมากขึ้น ความสับสนระหว่างสามีภรรยาของเราก็เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น ช่วงเวลานั้น ข้าพเจ้าต้องทนทุกข์ทรมาน ชนิดที่ในชีวิตไม่เคยมีมาก่อน ข้าพเจ้าเคยคิดจะขอหย่าจากกัน แต่ข้าพเจ้ากลัว กลัวว่าจะเป็นการทำร้ายเธอ สูญเสียเธอไป เพราะเธอเป็นสุดที่รักของข้าพเจ้า ยิ่งข้าพเจ้าขัดขวางการประทับจิตของเธอ เธอก็จะยิ่งทุกข์ทรมานมาก เมื่อเห็นเธอเป็นเช่นนี้ ใจของข้าพเจ้าเต็มไปด้วยความคับแค้นใจ แค้นใจภรรยายึดติดกับธรรมวิถีกวนอิม และแค้นใจศิษย์ผู้พี่หญิงที่มาให้หนังสือ คิดว่าเป็นเพราะเธอ ทำให้สามีภรรยาระหว่างเราผิดใจกัน

แม้ข้าพเจ้าจะใช้วิธีการต่างๆ เพื่อขัดขวาง ภรรยาก็ปิดบังข้าพเจ้า ไปประทับจิตที่ประเทศเกาหลีจนสำเร็จ ขณะนี้เมื่อหวนคิดขึ้นมาอีก รู้สึกว่า การกระทำในตอนนั้นมันช่างน่าขันจริงๆ เป็นเพียงปุถุชน กล้าคิดที่จะต่อต้านพลังของพุทธะ เปรียบเหมือนตั๊กแตนกางปีกไปขวางรถ! เมื่อภรรยากลับมา จิตใจของข้าพเจ้ากลับสงบลง และเริ่มสำรวจการกระทำของตัวเองด้วยใจจริง ต่อมาก็ยอมรับประทานมังสวิรัติกับเธอโดยไม่ต้องฝืนใจ และทิ้งเหล้าไปด้วย แน่นอน ทั้งหมดนี้ ต้องยกให้เป็นพลังรักที่ยิ่งใหญ่ของท่านอาจารย์ แต่ว่า ข้าพเจ้าก็ยังไม่ยอมร่วมบำเพ็ญกับภรรยาด้วยกัน

เดือนมิถุนายนปีนี้ ภรรยาไปเช่าภาพวาดของท่าอาจารย์มา 2 ภาพ ("ถ้ำหิน" กับ "ความหวัง") สิ่งที่คิดไม่ถึงคือ ภายใน 1 สัปดาห์ ข้าพเจ้าได้ฝันเห็นท่าน

อาจารย์มาพาข้าพเจ้า ไปยังดินแดนสวยงาม สถานที่ที่ข้าพเจ้าลืมไม่ลงก็คือ ท่านอาจารย์พาข้าพเจ้าบินไปถึงโบสถ์ใหญ่ที่มีรัศมีแพรวพราวแห่งหนึ่ง มองไม่เห็นหลังคา มีตาต้นเสา สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยแสงสีทอง ที่แพรวพราวระยิบระยับตาไปหมด จนไม่สามารถบรรยายด้วยภาษาได้ ท่านอาจารย์กับข้าพเจ้าคุยกันเหมือนกับเป็นเพื่อนเก่า ท่านบอกข้าพเจ้าว่า "ต้องมองการณ์ไกล ต้องปล่อยวางบ้าง ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ล้วนมาจากการเลือกสรรของตัวเองทั้งสิ้น จะมีชีวิตอย่างไร ก็จะเป็นอย่างนั้น"

ขณะนั้นข้าพเจ้าดีใจมาก คิดว่าท่านอาจารย์เข้าใจข้าพเจ้า ให้ความอิสระกับข้าพเจ้า ผ่านไปอีกหลายวัน ฝันว่า ท่านอาจารย์พาข้าพเจ้าผ่านพ้นถ้ำมืดของจักรวาล ขณะเดียวกันก็เห็นดวงดาวที่เปล่งแสงลอยผ่านพวกเราไปอย่างรวดเร็ว แต่ข้าพเจ้ารู้สึกว่า ความเร็วของข้าพเจ้ากับท่านอาจารย์เร็วกว่าดวงดาวหลายเท่า ขณะที่บินผ่านถึงกลางถ้ำมืด ข้าพเจ้าเห็นแสงที่พุ่งออกมาเหมือนกับภาพ (ถ้าหิน) ต่อจากนั้นก็เป็นแสงสีขาวที่สว่างมากจนเคืองตา ความรู้สึกในขณะนั้นไม่สามารถจะอธิบายได้

ตั้งแต่นั้นมา ข้าพเจ้าเริ่มตั้งใจวิเคราะห์คำสอนของท่านอาจารย์ และเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งถึงคำพูดแต่ละคำของท่านอาจารย์ ว่าเป็นความจริงทั้งหมด! ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงเริ่มบำเพ็ญวิถีสะดวก ขณะนั่งสมาธิ ก็มีประสบการณ์ที่ดีมาก ท่านอาจารย์พาข้าพเจ้าไปเที่ยวสถานที่สวยงามต่างๆ เสมอ ขณะนี้ข้าพเจ้าได้สัมผัสกับความสุขที่แท้จริง ความแค้นที่มีต่อภรรยาก็กลายเป็นความรัก เราทั้งสองวิเคราะห์คำสอนของท่านอาจารย์ด้วยกันทุกวัน มีเรื่องที่คุยกันไม่รู้จบ ข้าพเจ้าขอบคุณและซาบซึ้งจากใจจริง ที่ท่านอาจารย์ส่งครอบครัวที่ดีกว่ามาให้ข้าพเจ้า

ท่านอาจารย์ใช้ภาพวาดส่งพลังกับปัญญามาให้กับข้าพเจ้า ทำให้ข้าพเจ้าเปลี่ยนแปลงความคิด กับความเชื่อถือเก่าๆ จนหมดสิ้น เข้าใจถึงพลังของท่านอาจารย์มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง! ข้าพเจ้ากำลังรอคอยที่จะได้รับการประทับจิตจากท่านอาจารย์อย่างเร็วที่สุด