อวกาศอันงดงามในภาพเขียนของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่
 
โดยจิตรกร ฮา คัน ทัม แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (ต้นฉบับเป็นภาษาเอาหลัก)
 

 
"ยุคใหม่"   "คืนอันสงบสุข"
ภาพเขียนด้วยดินสอสี 37.2 x 45.2 ซม.  ญี่ปุ่น 2535   ภาพเขียนด้วยดินสอสี 39 x 54 ซม.  ญี่ปุ่น 2535
 

ภาพเขียนด้วยดินสอสี 2 ภาพแตกต่างไปจากภาพเขียนทิวทัศน์สีน้ำมันภาพอื่นๆ ของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่  แสดงให้เห็นถึงความกว้างใหญ่ของจักรวาลด้วยการจัดวางภาพให้มีเนื้อที่กว้างใหญ่ และการตวัดเส้นอย่างนุ่มนวล  สีหลากหลายทั้งแก่และอ่อนของสีฟ้าอมเขียวและเหลืองมะนาว  ได้ถูกนำมาใช้วาดดวงดาวและดวงจันทร์ในภาพวาดเหล่านี้

 

ยกตัวอย่าง พระจันทร์เสี้ยวเสมือนฝันใน "คืนอันสงบสุข" ถูกล้อมรอบโดยวงกลมสีเหลืองอ่อน ในขณะที่วงกลมสีขาวสว่างวงใหญ่ ครอบคลุมท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยดวงดาวและดวงจันทร์  วงกลมสีขาววงใหญ่นี้ไม่สามารถวาดให้อยู่เต็มภายในกรอบรูปได้  ส่วนบนของวงกลมเลยพ้นภาพเขียนออกไปทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงเนื้อที่อันไม่มีขอบเขตสิ้นสุดของจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล  ในทางตรงกันข้ามแต่ละคนจะรู้สึกเหมือนตนเองไม่มีความสำคัญคล้ายกับเป็นผงธุลีเล็กๆ ในความกว้างใหญ่ของอวกาศ  สีฟ้าอมเขียวอันพิเศษมีค่ายิ่งกว่าหยกที่อยู่บนมงกุฏของกษัตริย์

 

เบื้องหลังม่านหมอกเผยให้เห็นพระจันทร์  และภายใต้แสงสีขาวเงินจะเห็นเทพธิดาจางเออ  ดวงดาวซึ่งอยู่กันเป็นคู่เป็นกลุ่ม หรืออยู่อย่างโดดเดี่ยวเฝ้าดูแลรับใช้ใกล้ชิดพระจันทร์ ซึ่งเปรียบเสมือนจักรพรรดิในราชสำนักของพระองค์กำลังประทับอยู่บนราชบัลลังก์พร้อมด้วยเหล่าเสนาบดีและนายพล ณ เบื้องยุคลบาท แรงสั่นสะเทือนอันบริสุทธิ์ที่เปล่งแสงออกมาจากภาพ  "คืนอันสงบสุข" ของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ทำให้ผู้ชมลืมภาระทางโลกและความผิดหวัง  และทำให้ผู้นั้นสามารถเข้าสู่ภูมิภพแห่งนักบุญอันสดชื่นซึ่งคนทางโลกยากที่จะมองเห็นได้

 

ในภาพเขียนด้วยดินสอสีอีกภาพหนึ่งคือภาพ "ยุคใหม่" ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ก็ได้ใช้สีบริสุทธิ์เรียบง่ายเช่นกัน การจัดวางภาพก็เรียบง่ายเหมือนกับที่ใช้ในการวาด "คืนอันสงบสุข" ภาพเขียนทั้ง 2 ได้ถูกวาดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น  ลักษณะสำคัญของ "ยุคใหม่" ก็คือดวงจันทร์สลัวๆ ซึ่งมีสีเข้มอ่อนหักเป็นมุมไปทางขวา ผู้ชมจะรู้สึกว่ากำลังมองดูพระจันทร์ของจริงซึ่งอยู่บนท้องฟ้า

 

ตรงกลางสูงขึ้นไปจะเห็นความหมายแสดงให้เห็นทางไปสู่ภูมิภพอันสูงสุด  พระจันทร์เสี้ยวซึ่งดูคล้ายกับนิ้วอันมหึมาของพระเจ้าได้ชี้ไปยังทางที่จะนำกลับไปสูสวรรค์  ดวงดาวทำหน้าที่เป็นแสงประทีปชี้นำสรรพสัตว์ผู้แสวงหาสัจธรรมกลับคืนสู่บ้าน  เส้นสีเขียวซึ่งเลื่อนสูงขึ้นไปช่วยเสริมไปสู่เส้นทางที่สู่เบื้องบน  ภาพเขียนภาพเล็กเต็มไปด้วยดวงดาวและดวงจันทร์และกระแสเสียงในรูปแบบที่เป็นสัญลักษณ์ซึ่งจุดประกายท้องฟ้าทั้งผืนให้สว่างไสว

 

ภาพเขียนทั้ง 2 ภาพเป็นภาพเขียนในรูปแบบนามธรรมด้วยมือของนักวาดรูปซึ่งรู้แจ้งสมบูรณ์  จึงทำให้แรงบันดาลใจซึ่งไม่อาจสัมผัสได้  และประณีตละเอียดอ่อนถูกแสดงบนภาพเขียนทั้ง 2 อย่างน่าอัศจรรย์ใจโดยไม่รู้ตัว  ผู้ชมจะจำได้ถึงเวลานานมาแล้วสมัยเมื่อจักรวาลว่างเปล่า  แปลกประหลาดใจและไร้อารมณ์ความรู้สึก  ภาพเขียน abstract ทั้ง 2 ภาพนี้ถ่ายทอดข่าวสารที่เต็มไปด้วยความหวังในการรวมกันอันยิ่งใหญ่ระหว่างสวรรค์และโลกมนุษย์  และทำให้ลิ้มรสถึงแสงและเสียงอันรุ่งโรจน์  อวกาศเป็นอาณาเขตของดวงวิญญาณอันสุงส่งมากมาย  มันครอบคลุมทุกอย่างไว้ทั้งหมดรวมถึงเส้นทางที่เดินทางอย่างสม่ำเสมอโดยพระเจ้าและนักบุญทั้งหลาย